ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีที่ 7.0% เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อในประเทศ โดยการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 2 ปี
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรับขยัฐลงหลังจากที่ RBA ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายทำกำไรออกมาก่อนหน้าที่จะเข้าซื้อกันอย่างคึกคัก โดยนักลงุนได้ซึมซับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในก่อนหน้านี้
โทนี่ มอร์ริส นักวิเคราะห์จากออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ปเปิดเผยว่า "อัตราดอกเบี้ยที่ได้ประกาศออกมาในวันนี้ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งผมคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้มีการเทขายเงินดอลลาร์ออสเตรเลียออกมา เนื่องจากค่าเงินดังกล่าวยังเคลื่อนไหวในระดับที่แข็งแกร่งนับตั้งแต่ที่ไต่ระดับเหนือ 85 เซนต์สหรัฐเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ดังนั้นผมคิดว่าตลาดน่าจะมีแนวโน้มที่จะถูกเทขายทำกำไร"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 11.07 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ 90.70 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 90.65 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียในช่วงก่อนหน้าที่ธนาคารกลางจะประกาศอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นายมอร์ริสคาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระหว่างเงินสกุลดอลลาร์ออสเตรเลียกับเงินสกุลสำคัญอื่นๆมีความแตกต่างกันมาก ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินต่อไป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--