(เพิ่มเติม) ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เม.ย.62 ที่ 95.0 จาก 96.3 ใน มี.ค.62 ปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 23, 2019 13:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเม.ย.62 อยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 96.3 ในเดือนมี.ค.62 โดยเป็นการปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า และเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

สาเหตุจากผู้ประกอบการได้เร่งการผลิตไปในช่วงเดือนก่อนหน้า เพื่อชดเชยการผลิตในเดือนเมษายนที่มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อกำลังซื้อที่ลดลงโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการส่งออกชะลอตัวอันเนื่องมาจากการชะลอตัวของการค้าโลก

นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ และต้องการให้มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อให้มีการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ ทั้งด้านการค้าและการลงทุน

ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 101.9 จากระดับ 104.2 ในเดือน มี.ค.62 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของค่าเงินบาทที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งปัญหาความขัดแยังทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่กระทบต่อการส่งออกของไทย

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นในเดือนเม.ย.ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก, ราคาน้ำมัน, อัตราแลกเปลี่ยน และสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยคลายความกังวลในเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ คือ สนับสนุนแหล่งเงินทุนสำหรับ SME รวมทั้งปรับหลักเกณฑ์ในการให้กู้เงินของธนาคารให้เหมาะสม และเกิดความคล่องตัว เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงแห่งเงินทุน และปรับลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตของหน่วยงานภาครัฐ โดยเร่งรัดโครงการ Regulartory Guillotine

"ไม่ได้เห็นตัวเลขแบบนี้มานานมาก แทบจะจำความไม่ได้ว่าทุกอย่างลงหมด อุตสาหกรรมใหญ่ กลาง เล็กก็ลง คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าก็ลง รายภูมิภาคทุกภูมิภาคก็ลง ช่วงนี้เราโดนหลายเด้ง เด้งนอกเด้งใน ช่วงนี้เราเจอทั้งเรื่องTrade War ซึ่งเห็นได้ว่าตัวเลขส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์แถลงออกมาค่อนข้างแย่ ขณะเดียวกันปัญหาภายใน เช่น ภัยแล้งเริ่มมีบทบาท ความกังวลในเสถียรภาพทางการเมือง ข้อกังวลใน 5 เรื่อง มีดีแค่เรื่องเดียวคือเรื่องดอกเบี้ย ต้องยอมรับว่าภาพเศรษฐกิจความเชื่อมั่นในเดือนเมษายนยังเป็นสิ่งที่ทุกคนยังเป็นกังวลอยู่พอสมควร" นายสุพันธุ์ กล่าว

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองนั้น นายสุพันธุ์ คาดหวังว่าทุกอย่างจะมีความชัดเจน การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ มีรัฐมนตรีครบทุกกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนงานต่างๆ หน้าตาของรัฐบาลที่จะออกมาก็มีผลอยากได้คนที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับกระทรวงนั้นซึ่งจะทำให้ทำงานได้เร็ว

"ความมีเสถียรภาพทางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในเวลานี้เพราะจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคการลงทุน โอกาสที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจะเรียงหน้าลงก็คงจะไม่มี อีกทั้งโอกาสในการเจรจาการค้ากับตลาดโลกจะมีความมั่นคงและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในโอกาสที่เราเป็นประธานอาเซียนด้วยต้องโชว์ศักยภาพในการขับเคลื่อนอาเซียน ร่วมมือกับอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจา FTA กับยุโรปเป็นสิ่งสำคัญหลังถูกยุโรปตัด GSP หมดแล้วทำให้เราเสียเปรียบทางด้านการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา รวมถึง FTA ไทย-อินเดีย เหล่านี้ต้องรีบดำเนินการ ...ถ้ารัฐบาลเดิมการทำงานจะประสานกันได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเป็นรัฐบาลใหม่จะมาจากตัวแทนจากพรรคการเมืองหลายพรรค การประสานงานจึงมีความจำเป็น"

สำหรับการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) วานนี้ ทางส.อ.ท.ได้เสนอไป 2-3 เรื่อง คือ 1.เรื่องกองทุนนวัตกรรมเพื่อสนับสนุน SME โดยอาจจะบริหารโดยเอกชนและรัฐบาลอาจจะสนับสนุนเรื่องมาตรการภาษีให้แก่ผู้ที่เข้ามาให้การสนับสนุนกองทุนนี้

2.เรื่องเมดอินไทยแลนด์ ให้คนใช้สินค้าไทยมากขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นการจัดซื้อจัดจ้างในประเทศ

3.เรื่องดิจิทัลเทรด แพลตฟอร์ม รวบรวมวิธีการซื้อการขายระหว่างต่างประเทศทั้งหมดเอามาไว้ในแพลตฟอร์เดียวกัน ซึ่งถ้าทำได้ภายใน 2-3 ปีจะทำให้การชำระเงินทุกอย่างจะรวดเร็วและตรวจสอบได้จะทำให้การค้าขายเป็นระดับสากลมากขึ้นซึ่งจะได้ประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ