หลายมณฑลของจีนซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุพายุหิมะพัดถล่มครั้งรุนแรงที่สุดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยังคงประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าใช้ต่อไป
เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการควบคุมกระแสไฟฟ้าของจีนกล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือมณฑลหูหนานและกุ้ยโจว ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งประชากรประมาณครึ่งหนึ่งยังคงประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าอย่างหนัก
ส่วนเมืองเฉินโจว ในมณฑลหูหนานซึ่งมีประชากรประมาณ 4 ล้านคน ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้าใช้มา 11 วันแล้ว
ขณะนี้มีแรงงานจากภาคธุรกิจพลังงานกว่า 130,000 คนกำลังปฏิบัติงานเพื่อทำให้หลายพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ อาทิ มณฑลหูหนาน ทางตอนกลาง และมณฑลกว่างซี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กลับมามีไฟฟ้าใช้ และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้พื้นที่ 80% ของเมืองและมณฑลต่างๆที่ได้รับผลกระทบกลับมามีไฟฟ้าใช้ได้ตามปกติก่อนถึงวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะระบุว่าจะกลับมาใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติเมื่อไหร่
กู๋ จุนหยวน วิศวกรอาวุโสจากคณะกรรมการควบคุมกระแสไฟฟ้าของจีน (CERC) ได้ปฏิเสธการรายงานข่าวของบรรดาผู้สื่อข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีความพร้อมและดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าขัดข้องและความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นจากเหตุพายุหิมะพัดถล่มล่าช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของจีนนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
"ผมไม่อยากพูดว่ามาตรการแก้ไขปัญหาของเราดีเยี่ยม แต่ผมเชื่อว่ามาตรการที่เราใช้นั้นมีประสิทธิภาพและมีความพร้อมเพียงพอ" เขากล่าว
นายกู๋กล่าวว่า หิมะและน้ำแข็งที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนส่งผลให้เสาและสายไฟฟ้าได้รับความเสียหาย
"เราไม่เคยเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้มาก่อน ในบางพื้นที่พบว่ามีน้ำแข็งปกคลุมสายไฟฟ้าหนาถึง 30 มิลลิเมตร" เขากล่าว
ทั้งนี้ สื่อของจีนรายงานว่า นักท่องเที่ยวนับ 10 ล้านคนที่อาศัยอยู่ตามสถานีรถไฟ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุพายุหิมะพัดถล่มในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังพยายามหาทางกลับบ้านให้ทันช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--