สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมทางธุรกิจในภาคการบริการของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
สถาบัน ISM ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเทมเป รัฐอาริโซน่า กล่าวว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางธุรกิจนอกภาคการผลิต (NMI) ลดลงจาก 53.9 ในเดือนธ.ค. ลงมาอยู่ที่ระดับ 44.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2546 ที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 แสดงถึงการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 53.0 แต่จากตัวเลขที่มีการเปิดเผยในวันนี้แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการบริการนั้น เลวร้ายกว่าที่ได้คาดกันเอาไว้
"จากข้อมูล NMI ล่าสุด จะเห็นได้ว่า มีอุตสาหกรรมการนอกภาคการผลิตเพียง 3 อุตสาหกรรมเท่านั้นที่มีการขยายตัวขึ้น" แอนโธนี่ นีเวส ประธานการสำรวจดัชนี ISM ภาคบริการ "ความเห็นของสมาชิกบ่งชี้ว่า ความอ่อนแอของเศรษฐกิจ ประกอบกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขา"
สำหรับภาคการบริการนั้น หมายรวมตั้งแต่ร้านอาหารและโรงแรม ไปจนถึงธนาคารและสายการบิน โดยคิดเป็น 80% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานของ ISM เป็นเครื่องยืนยันว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังชะลอตัว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--