นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จาก IMD สวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 2562 พบว่า เขตเศรษฐกิจที่มีอันดับสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 1 แทนที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งลดอันดับลงไปเป็นที่ 3 รองลงมา คือ ฮ่องกง, สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับเขตเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียนที่ได้รับการจัดอันดับ 5 เขตเศรษฐกิจ มีอันดับดีขึ้นเกือบทั้งหมด ประกอบด้วยสิงคโปร์ ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 1 มาเลเซีย อันดับคงที่ที่ 22 เช่นเดียวกับปีก่อน ส่วนไทยสูงขึ้น 5 อันดับ จากอันดับที่ 30 เป็น 25 ส่วนอินโดนีเซียอันดับดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากอันดับที่ 43 เป็น 32 และฟิลิปปินส์ จากอันดับที่ 50 เป็น 46
เมื่อพิจารณาผลการจัดอันดับของไทย จากผลการจัดอันดับที่แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจ, ประสิทธิภาพของภาครัฐ, ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน มีผลการจัดอันดับดีขึ้น 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านสภาวะเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ และโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจลดลง 2 อันดับ
"เป็นที่น่ายินดีที่ในปีนี้ผลการจัดอันดับของประเทศไทย ดีขึ้นถึง 5 อันดับ โดยที่ด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจและประสิทธิภาพของภาครัฐดีขึ้นถึง 2 อันดับ ในด้านเศรษฐกิจนั้น ปรากฎว่าด้านการลงทุนต่างประเทศ มีอันดับที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างประเทศ ในขณะที่การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานเพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจก็ส่งผลให้อันดับด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของประสิทธิภาพภาครัฐ ดีขึ้นถึง 4 อันดับ ซึ่งนับว่าเป็นผลจากการที่รัฐบาลมีแนวทางที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการปรับกฎระเบียบให้ทันสมัย คล่องตัว และส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในการให้บริการให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการแก้ปัญหาปัจจัยพื้นฐานเชิงโครงสร้างในทุกด้าน และกำลังผลักดันต่อไปให้เกิดผลอย่างต่อเนื่อง และในวงที่กว้างขวางมากขึ้น" เลขาธิการสภาพัฒน์กล่าว
อนึ่ง IMD ได้ทำการสำรวจและจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทั้งหมด 63 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก