นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.88 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.78 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังมีแรงซื้อในตลาดโลกกลับเข้ามามาก โดยตลาดกังวลเรื่อง ปัญหาหนี้ของอิตาลี และปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยังไม่คลี่คลาย
"บาทอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แต่ระหว่างวันคาดว่าจะมีความผันผวน ส่วน flow ที่ไหลเข้า มามากเมื่อวานนี้ช่วยชะลอไม่ให้บาทอ่อนค่าไปมากกว่านี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.80 - 31.95 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (28 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.72900% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.74418%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.8175 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 109.34 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.36 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1171 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1188 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.7940 บาท/ดอลลาร์
- ครม.เห็นชอบปรับปฏิทินงบประมาณรายจ่ายปี 2563 แจงเพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน หลังล่าช้ากว่าแผน 3 เดือน
ด้าน "ขุนคลัง" ประเมิน เริ่มใช้ได้วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า เหตุต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาก่อน ยันระหว่างนี้ไร้ปัญหา ให้ส่วนราชการใช้งบ
ประมาณปี 2562 ไปพรางก่อน
- ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยไว้ที่ 10 ล้านตัน มูลค่า
180,000 ล้านบาท ปริมาณลดลงจากปี 61 ที่ส่งออกได้ 11.09 ล้านตัน แต่มูลค่าการส่งออกใกล้เคียงกัน เพราะส่วนแบ่งข้าวไทยไม่ได้ลด
ลง และข้าวหลายชนิดมีราคาดีขึ้น "ที่ยังคงเป้าหมายส่งออกไว้ที่ 10 ล้านตัน เพราะมองว่าสงครามการค้าไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภค
ข้าว อีกทั้งยังมีภัยแล้งจากเอลนีโญทำให้ผลผลิตข้าวของหลายประเทศลดลง จึงเป็นโอกาสในการส่งออกข้าว
- นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับ
เศรษฐกิจระดับล่างเสมอ ไม่ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะสูงหรือต่ำแต่ไทยมีคนรายได้น้อยจำนวนมากเห็นได้จากยอดบัตร
สวัสดิการแห่งรัฐที่มีจำนวนมาก และอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังแก้ปัญหาระดับล่างไม่ได้ซึ่งรัฐบาลพยายามหาช่องทางโอกาสและการใช้
ออนไลน์เข้ามาช่วยเสริมในระบบการค้าขาย หากทุกคนไม่ปรับแก้ไม่พัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงก็จะถอยหลังไปเรื่อยๆ
- กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารสนับสนุนบริษัท บัตรเครดิตกรุงไทย จำกัด
(มหาชน) หรือ เคทีซี ประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ) และนาโนไฟแนนซ์ (สิน
เชื่อเพื่อการประกอบอาชีพ) พร้อมกับมีการร่วมลงทุนตั้งบริษัท เคทีซี นาโน จำกัด และบริษัท เคทีซี พิโก (กรุงเทพฯ) จำกัด โดยเคทีซี
ถือหุ้นในสัดส่วน 75.05% ของทุนจดทะเบียนและธนาคารกรุงไทย ถือหุ้น 24.95% ของทุนจดทะเบียน ขณะที่เคทีซี มีความเชี่ยวชาญสินเชื่อ
รายย่อยจึงเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ดี อีกทั้งเป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
- "กรุงไทย" จ่อปิด-ควบรวม 50 สาขาในปีนี้ ตั้งเป้าสิ้นปีเหลือสาขารวม 1,100 แห่ง เหตุลูกค้าหันใช้โมบายแบงกิ้งแทน
ขณะ คุณภาพหนี้เอสเอ็มอีด้อยลงต่อเนื่อง สั่งติดตามใกล้ชิด
- ตลาดหุ้นไทยมูลค่าซื้อขายล้นทะลัก สูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 44 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งรับอานิสงส์เอ็มเอสซีไอปรับเพิ่มน้ำหนัก
การลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นไทย ต่างชาติอัดเงินลงทุนเพิ่ม
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) หลัง
จากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงจากรายงานข่าวที่ว่า สหภาพยุโรป (EU) อาจสั่งปรับอิตาลี เนื่องจากมีระดับหนี้สินและยอดขาดดุลงบประมาณสูงเกิน
กำหนด
- ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 134.1 ในเดือนพ.
ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 129.2 ของเดือนเม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการจ้างงาน
ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังดีดตัวขึ้นแตะ 175.2 ซึ่งเป็นระดับ
สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในช่วง 6 เดือนข้างหน้าพุ่งขึ้นสู่ระดับ 106.6 จากระดับ 102.7 ของเดือนเม.ย.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อ
ตลาดทองคำ โดยดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้
บริโภคเดือนพ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
(pending home sales) เดือนเม.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย., การใช้จ่ายส่วนบุคคล
เดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน