นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงินได้เรียนรู้หลักสูตร "เงินทองต้องวางแผน" ผ่านระบบ e-learning เพื่อเป็นการส่งเสริมวินัยทางการเงิน รู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสม และมีเทคนิคการจัดการเงินอย่างถูกวิธี ตลอดจนสามารถวางแผนชำระคืนเงินกู้ยืมได้ตามกำหนด
การเรียนผ่าน e-learning นับเป็นทางเลือกในการนับเป็นชั่วโมงจิตอาสาของผู้กู้ยืมเงิน เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยเข้าเรียนออนไลน์ผ่านระบบ e-Studentloan เมื่อเรียนจบหลักสูตรผู้กู้ยืมสามารถพิมพ์ประกาศนียบัตร (e-Certificate) ไปยื่นให้กับสถานศึกษา และจะได้นับเป็นชั่วโมงจิตอาสาจำนวน 3 ชั่วโมง นำไปสะสมจำนวนชั่วโมงจิตอาสาให้ครบตามที่กองทุนฯ กำหนด ซึ่งจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุนฯ ได้กำหนดให้ผู้กู้ยืมใช้เกณฑ์การนับชั่วโมงจิตอาสา 36 ชั่วโมง เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคัดเลือกผู้กู้ยืมเงิน หากผู้กู้ยืมเงินมีวินัยทางการเงินก็จะสามารถวางแผนชำระหนี้ กยศ.ได้ตามกำหนด เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้อง และคาดว่าจะช่วยลดการเกิดเบี้ยปรับและลดปริมาณการฟ้องร้องคดีได้ต่อไป
ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า ขณะนี้ กยศ. ได้เปิดให้ทำเรื่องยื่นกู้ในปีการศึกษา 2562 โดยมีนักเรียน นักศึกษาใหม่ทยอยขอกู้แล้ว 2 หมื่นราย จากเป้าหมายทั้งปี 2 แสนราย ซึ่ง กยศ.เปิดรับคำขอกู้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือน ส.ค. และหากเป็นระดับอุดมศึกษาที่เปิดเรียนตามภาคเรียนอาเซียนจะเปิดถึงเดือน ต.ค. ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งปีการศึกษานี้ จะปล่อยกู้ได้ทั้งนักเรียนใหม่และเก่ากว่า 6 แสนราย คิดเป็นวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ กยศ.ได้เริ่มทยอยปรับลดดอกเบี้ยและลดเงินต้นให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษาตามโครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว เพื่อส่งเสริมการเรียนในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ โดยคาดว่าในปีการศึกษา 2562 ซึ่งเป็นปีแรกจะมีผู้ได้รับสิทธิ 2-3 หมื่นราย ใช้เงินสนับสนุนกว่า 1.7 พันล้านบาท
นายชัยณรงค์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน กยศ.มีลูกหนี้กว่า 3 ล้านราย ผิดนัดชำระหนี้ประมาณ 1.8 ล้านราย หรือคิดเป็น 60% โดยขณะนี้ได้หักบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ของ กยศ.ทั้งข้าราชการ, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และพนักงานเอกชนเดือนละ 3 แสนราย เป็นเงินมากกว่า 420 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะสามารถรับชำระหนี้ กยศ.ได้มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าหมายปี 2563 จะขยายการหักบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ของ กยศ.ให้ครอบคลุม 1 แสนบริษัททั่วประเทศ
น.ส.ปิยาภรณ์ ครองจันทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า โครงการสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ผู้กู้ยืมเงิน กยศ. ด้วย e-Learning หลักสูตร"เงินทองต้องวางแผน"นี้ เป็นการทำงานร่วมกันภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อส่งเสริมความรู้การเงินขั้นพื้นฐาน (Financial Literacy) ซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย
โดยโครงการนี้มุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืมเงิน กยศ. ครอบคลุมกว่า 600,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งความร่วมมือนี้สอดคล้องกับภารกิจการส่งเสริมความรู้ทางการเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่าทศวรรษ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความมั่นคงทางการเงินและมีสุขภาพการเงินที่ดี รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมการออมให้กับสังคมไทย