เมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.2551 ที่ร่วงลงเกินคาดของสหรัฐ อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 18 มี.ค.
เมื่อคืนนี้ สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ในเดือนม.ค. ร่วงลงสู่ระดับ 41.9 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2546 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
เชอร์รีล คิง นักวิเคราะห์จากเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า "ดัชนีภาคการผลิตไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง แต่ยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจตกต่ำลงในระดับที่ลึกมาก ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมถึงผลกระทบที่ได้รับจากยอดขายรถยนต์ที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค.และผลสำรวจของเฟดที่ระบุว่า อัตราการปล่อยกู้ในสหรัฐลดน้อยลงเนื่องจากสถาบันการเงินกำหนดมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้น
"ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.ที่ร่วงลงอย่างหนักบ่งชี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.3%"
ดัชนีที่ระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัว และดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคบริการชะลอตัวลงอย่างมาก
"หากสถานการณ์ยังย่ำแย่เช่นนี้ต่อไป เราคาดว่าภาคการผลิตของสหรัฐก็จะทรุดตัวลงด้วยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งหมายความว่าตัวเลขจ้างงานของสหรัฐก็จะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง" คิงกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--