ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้(6 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนโยกย้ายการลงทุนไปยังตลาดซื้อขายพันธบัตรสหรัฐที่ปลอดความเสี่ยงมากกว่า หลังจากที่ตัวเลขภาคบริการของสหรัฐที่อ่อนแอได้จุดกระแสความหวั่นวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้ก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว
สถาบันจัดการอุปทานเปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของระบบเศรษฐกิจ ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงภาวะขาลง
จากข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยออกมานี้ได้ทำให้นักลงทุนกระหน่ำเทขายหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา และส่งผลให้ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนย้ายฐานการลงทุนไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงมากกว่า
แดเนียล ชาน นักวิเคราะห์จากดีเอสบี แบงก์กล่าวว่า "ข้อมูลภาคบริการที่ร่วงลงได้ตอกย้ำถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลบ่งชี้ที่ซบเซาจากสหภาพยุโรป ซึ่งตัวเลขชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดยิ่งทำให้นักลงทุนไม่ต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง"
"เราคาดว่าตลาดเงินจะยังคงแกว่งตัวผันผวนในไม่กี่วันข้างหน้าท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งตลาดเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย "
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงแตะที่ 106.56 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 106.825 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงแข็งค่าขึ้นที่ 1.9648 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.9645 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ส่วนเงินยูโรขยับลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.4640 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4646 ดอลลาร์ต่อยูโร
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--