นายโรบิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮัลโหล โกลด์ จำกัด (HelloGold) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวแอพพลิเคชั่นออมทอง ซื้อ ขายและเก็บรักษาได้ง่ายๆ เจาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย มี 10 บาทก็สามารถออมได้ หลังจากเห็นโอกาสคนไทยนิยมทอง ครองอันดับ 6 ของโลกในการนำเข้าทองในปี 61 จึงมั่นใจในตลาดออมและซื้อขายทองในไทย พร้อมตั้งเป้าหมายจำนวนลูกค้า 120,000 คน ภายในปี 62
ทั้งนี้ บริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนที่ยังไม่เข้าถึงการใช้บริการของธนาคาร หรือกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงทุกบริการของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้ที่เรียกกันว่า unbanked หรือ underbanked โดยกลุ่มเป้าหมายนี้สูงถึง 80% ของประชากรในประเทศสมาชิกอาเซียน
สำหรับประชากรกลุ่มแรงงานนั้น มีเพียง 18% ที่ได้รับค่าจ้างในรูปแบบเงินเดือนผ่านบัญชีของสถาบันการเงิน ส่วน 82% ที่เหลือนั้นได้รับค่าจ้างในรูปแบบเงินสด ขณะที่ในประเทศไทยกลุ่มแรงงานกว่า 70% ยังคงได้ค่าจ้างอยู่ในรูปแบบของเงินสด และพบว่ามีสัดส่วนการออมต่อรายได้ต่ำกว่า 13% ทั้งนี้ประชากรไทยมีบัญชีการออมรวมทั้งประเทศกว่า 83 ล้านบัญชี และมีเงินฝากเฉลี่ยไม่ถึง 50,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 88% ของบัญชีเงินฝากทั้งหมด
"เรามองว่าประเทศไทยเป็นตลาดมีศักยภาพสูงในเรื่องการออม โดยพบว่า 87%ของกลุ่มคนทำงานมีความต้องการในการออม แต่มีเพียง 30%สามารถเข้าถึงการออม และจากสถิติพบว่าความต้องการออมทองของประชากรไทยเคยสูงติดอันดับ 6 ของโลกในปี 61 ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าทองคำเป็นทรัพย์สินที่มีความมั่นคงสูงและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการออม ทั้งนี้คนไทยกลับมีความรู้สึกว่าทองคำนั้นยังมีราคาแพงและเข้าถึงยาก จะต้องมีเงินเป็นหลักพันหรือหมื่นถึงจะสามารถซื้อทองเก็บไว้ได้ นี่คือเหตุผลที่บริษัทฯ ได้ออกแบบแอพพลิเคชั่น HelloGold เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการออมทองคำได้โดยง่าย สะดวก และปลอดภัย" นายโรบิน ลี กล่าว
นางสาวศิริภัทร ภัทรางกูร ผู้จัดการทั่วไป (ประเทศไทย) บริษัท ฮัลโหล โกลด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น HelloGold เพื่อให้บริการซื้อขายและเก็บรักษาทองคำบริสุทธิ์ LMBA 99.99% ตอบโจทย์การออมของกลุ่มคนที่มีรายน้อยให้สามารถเข้าถึงการออมทองคำแท่งได้โดยง่าย
แอพฯ HelloGold มีความสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน สามารถทำได้ตั้งแต่เช็คราคาทองแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญมีความปลอดภัยในการออม ซื้อ ขาย และการเก็บรักษา ทั้งยังทำให้ผู้ออมสามารถซื้อทองคำแบบปลีกในราคาที่ดีที่สุดอีกด้วย กำหนดเงินขั้นต่ำในการออมเพียง 10 บาท และสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อวัน เมื่อสะสมทองคำแล้วหากต้องการใช้เงินสดก็สามารถขายทองแล้วรับเป็นเงินสด หรือผู้ใช้จะเลือกไถ่ถอนเป็นทองคำก็ทำได้เช่นกัน
อีกทั้งยังมีโปรแกรม SmartSaver ที่ผู้ออมสามารถตั้งเป้าหมายในการออมรายเดือน โดยจะดำเนินการซื้อทองให้ในราคาที่ต่ำที่สุดของวันในแต่ละวันทำการ ทำให้ผู้ออมไม่ต้องห่วงเรื่องราคาเวลาซื้อ หากต้องการใช้เงินหรือไถ่ถอนเป็นทอง ผู้ใช้สามารถยกเลิกแผนการออมได้ทุกเมื่อ มองว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออมของทุกๆ คนให้ดีขึ้น
HelloGold เริ่มให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ก.พ.62 โดยกำหนดเงื่อนไขคือผู้ใช้แอพพลิเคชั่นต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น HelloGold ผ่าน Android Play Store ส่วน iOS นั้นจะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในเดือน ก.ค.62 โดยลูกค้าจะต้องลงทะเบียนด้วยการแสดงบัตรประชาชน พร้อมรูปถ่าย เพื่อเปิดบัญชีกระเป๋าเงิน (HelloGold Wallet) หลังจากนั้นระบบจะส่งคำยืนยันตอบรับผ่านทางอีเมล์ และทาง SMS เพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เรียบร้อยแล้วลูกค้าจึงจะสามารถนำเงินฝากเข้า HelloGold Wallet และเริ่มใช้บริการออมและซื้อขายทองได้
บริษัทคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเพียง 2% ของมูลค่าธุรกรรม และคิดค่าธรรมเนียมในการเก็บรักษาทองคำ 2% ต่อปี และในทุกๆ ธุรกรรมที่ลูกค้ามีการดำเนินการกับบริษัท ระบบจะมีการส่งอีเมลล์ให้ลูกค้าไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งจัดเก็บประวัติข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดบนแอพฯ ที่ผู้ใช้สามารถตรวจเช็คได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคาทองคำได้ตลอดเวลา ราคาทองในระบบจะอัพเดตเรียลไทม์ตามความเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในตลาดโลก
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มพันธมิตรเพื่อขยายฐานลูกค้า โดยเล็งเห็นถึงการออมเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนึกถึง บริษัทอยากทำให้การออมเป็นเรื่องง่าย โดยล่าสุดได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ บริษัท เดอะวันเซ็นทรัลเพื่อให้สมาชิก The 1 สามารถใช้คะแนนสะสม (Point) แลกรับทองกับ HelloGold โดยทุก 500 คะแนน จะได้รับ Voucher รับทองมูลค่า 50 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน นี้ เป็นต้นไป และขณะนี้ทางบริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรรายอื่นเพิ่มเติม
นายกมล ธนนิธาพร Head of Strategic Partnership บริษัท เดอะวันเซ็นทรัล จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันมีสมาชิก The 1 จำนวนกว่า 15 ล้านรายทั่วประเทศ โดยพันธกิจของ The 1 คือต้องการขยายความร่วมมือไปสู่พันธมิตรนอกกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลเพื่อเติมเต็มระบบนิเวศของ The 1 ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ดังนั้น การจับมือกันระหว่าง The 1 และ HelloGold จึงช่วยเสริมกำลังในการเดินหน้าสู่การเป็นไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้คะแนนแก่สมาชิก ใช้คะแนน The 1 แลกรับ Voucher ส่วนลดซื้อทองกับ HelloGold เพื่อตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของสมาชิก The 1 ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น