นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2562 ณ กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ สมาชิกทั้ง 16 ประเทศสามารถตกลงในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย 1) รายการสินค้าสำหรับกฎถิ่นกำเนิดเฉพาะรายการสินค้า ตกลงกันเพิ่มเติมได้ 331 รายการ หรือกว่า 70% ของรายการสินค้าทั้งหมด ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ส่งออกสามารถส่งออกสินค้าที่ผลิตในไทยมากขึ้น รวมทั้งผู้ผลิตของไทยจะสามารถใช้วัตถุดิบและส่วนประกอบจากแหล่งต่างๆ ในภูมิภาคอาร์เซ็ปได้มากขึ้น
2) ภาคผนวกเกี่ยวกับบริการโทรคมนาคม สามารถสรุปการหารือได้อีก 6 ข้อบท คือ เรื่องคำนิยาม สิทธิการคงเลขหมายการเชื่อมโยง การเข้าถึงและใช้โครงข่ายโทรคมนาคม การระงับข้อพิพาท และการเข้าถึงสายท่อและเสา นับว่าคืบหน้าไปกว่า 95% ของข้อบททั้งหมด และคาดว่าจะสามารถสรุปได้ในการเจรจารอบถัดไป
3) ภาคผนวกการเงิน สามารถสรุปข้อบทคำนิยามเรื่องบริการการเงิน และคาดว่าจะสามารถสรุปภาคผนวกดังกล่าวได้ในรอบต่อไปเช่นกัน และ 4) ทรัพย์สินทางปัญญา สามารถสรุปข้อบทองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้สมาชิกดำเนินการด้านลิขสิทธิ์ด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ยังต้องหารือในประเด็นอ่อนไหวระหว่างคู่เจรจาต่อไป ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะสามารถบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายในปี 2562 ได้อย่างแน่นอน
นายณรงค์ กล่าวว่า ทุกประเทศกระตือรือร้นผลักดันให้การเจรจาสรุปผลให้ได้ในปีนี้ แม้หลายประเทศอยู่ระหว่างการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาล โดยสมาชิกยอมรับข้อเสนอของไทยและอาเซียน ทำให้การเจรจาคืบหน้ามาก แต่ยังมีประเด็นอ่อนไหวที่ยังต้องหารือกันอย่างเข้มข้นต่อไป โดยขณะนี้ เจรจาจนได้ข้อสรุปแล้ว 7 เรื่อง เหลืออีก 13 เรื่องที่ต้องให้เสร็จตามเป้าหมายสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม แม้สมาชิกสามารถสรุปผลเจรจาได้ในสิ้นปีนี้ แต่คงไม่สามารถลงนามความตกลงได้ในปี 63 เพราะต้องรอให้สมาชิกทุกประเทศแปลงพิกัดศุลกากร (ฮาร์โมไนซ์) ของตารางการลดภาษีสินค้าให้เป็นพิกัดศุลกากรล่าสุดของปี 60 ให้เสร็จก่อน เพราะในการเจรจาอาร์เซ็ป สมาชิกใช้ตารางการลดภาษีตามฮาร์โมไนซ์ปี 55
"การตั้งเป้าหมายสรุปการเจรจา RCEP ในปีนี้ ทำให้สมาชิกต้องเร่งหารือเรื่องการแปลงพิกัดศุลกากรของตารางการลดภาษีจากระบบฮาร์โมไนซ์ของปี 55 เป็นระบบฮาร์โมไนซ์ของปี 60 ให้เร็วกว่ากระบวนการปกติในปีนี้ ทั้งนี้ กระบวนการแปลงพิกัดศุลกากรของสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ อาจส่งผลกับระยะเวลาการลงนามความตกลง RCEP ในปีถัดไป ซึ่งไทยในฐานะประธานอาเซียนยืนยันจะผลักดันให้การเจรจา RCEP สรุปผลภายในปีนี้ และจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน สมัยพิเศษ ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ เพื่อหารือท่าทีของอาเซียนในเรื่อง RCEP ก่อนการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำ RCEP ครั้งที่ 26 ณ เมืองเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาเพิ่มเติมได้อีกหลายข้อบทตามแผนที่ตั้งไว้" นายรณรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าการเจรจาการยื่นข้อเสนอเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุนของประเทศสมาชิก โดยสมาชิกตกลงยื่นข้อเสนอปรับปรุงเปิดตลาด ภายในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ เพื่อให้การเจรจาข้อเสนอเปิดตลาดเป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับการพิจารณากฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ในกรณีที่สินค้าชนิดเดียวกันมีการเปิดตลาดที่แตกต่างกันของสมาชิกแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่สมาชิกอาร์เซ็ปเห็นว่ามีความซับซ้อนและมีเงื่อนไขต่อผลประโยชน์ของสมาชิกมากที่สุด เนื่องจากอาจมีการสวมสิทธิเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งเป็นผลมาจากการยื่นข้อเสนอเปิดตลาดที่มีความยืดหยุ่นในหลักการการเปิดตลาดที่แตกต่างกัน โดยขณะนี้มีสมาชิก อาทิ อาเซียน อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ได้ยื่นร่างกฎเกณฑ์เพื่อใช้เป็นฐานการเจรจา ซึ่งร่างข้อเสนอดังกล่าวมีความแตกต่างกันทั้งในกระบวนการและกฎเกณฑ์ทางศุลกากร ทั้งนี้ สมาชิกอยู่ระหว่างเร่งหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว