ไมดาส เมเนจเมนท์ คอร์ป และวอลเลซ ฟันด์ส เมเนจเมนท์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมเหมืองล่าสุดว่า บริษัท บีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ไม่ควรจะเพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการริโอ ทินโต กรุ๊ปมูลค่า 1.35 แสนล้านดอลลาร์
ไมเคิล เบิร์ช ซึ่งรับหน้าที่บริหารหุ้นมูลค่า 140 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งหุ้นริโอและบีเอชพี กล่าวว่า บีเอชพีไม่สามารถเพิ่มข้อเสนอได้โดยไม่จำเป็นต้องลดมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทลง เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลนักที่บริษัทจะต้องเพิ่มเงินเพื่อซื้อริโอ ทินโต
เมื่อวานนี้ ริโอ ทินโตได้ออกมาปฏิเสธข้อเสนอใหม่ของบีเอชพี โดยชี้ว่าข้อเสนอดังกล่าวประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัทเหมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกต่ำเกินไป โดยนายมาเรียส คล็อปเปอร์ส ซีอีโอของบีเอชพี ซึ่งได้กู้เงินสูงถึง 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ได้เพิ่มข้อเสนอในการซื้อกิจการริโอทินโตอีก 13% หลังจากที่บริษัท ไชนาลโค และอัลโคได้เข้ามาซื้อหุ้นริโอทินโต เพื่อขัดขวางการซื้อหุ้นของบีเอชพีเพียง 5 วันที่ผ่านมา
ทอม วินมิลล์ ประธานไมดาส ซึ่งมีหุ้นอยู่ในบีเอชพีด้วยนั้น กล่าวว่า หากมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าเป็นผม ผมจะถอนตัว อย่าเพิ่มข้อเสนอ
หุ้นริโอ ตกลงถึง 3.14 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 2.5% ในตลาดหุ้นออสเตรเลียเมื่อเวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นในออสเตรเลีย ส่วนหุ้นบีเอชพีขยับขึ้น 0.3%
ทั้งนี้ หากมีการรวมกิจการะหว่างบีเอชพีและริโอสำเร็จ ทั้ง 2 บริษัทจะกลายเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับบริษัท เซีย วาล โด รอโอ โดเซ หรือซีวีอาร์ดี ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์สินแร่เหล็กรายใหญ่ที่สุดของของบราซิล เว็บไซต์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--