สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า S&P ได้คงอันดับเครดิต ริโอ ทินโต พับลิค, ริโอ ทินโต ลิมิเต็ด และบริษัทในเครือให้อยู่ในอันดับที่ต้องอยู่ในการจับตาและเป็นบวก (positive watch) หลังจากที่บีเอชพี บิลลิตันได้ประกาศซื้อกิจการริโอ ทินโต อย่างเป็นทางการ มูลค่า 1.47 แสนล้านดอลลาร์ และเสนอหุ้น 44% แก่ผู้ถือหุ้นริโอทินโต
การคงอันดับเครดิตที่เป็นบวกและต้องอยู่ภายใต้การติดตามนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการยื่นเสนอซื้อกิจการ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ริโอ ทินโตปฏิเสธข้อเสนอของบีเอชพี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจะนำไปสู่การปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ และการปรับโครงสร้างการเป็นเจ้าของของริโอ ทินโต เมื่อพิจารณาจากข้อเสนอของบีเอชพีที่ต้องการเสียงตอบรับ 50.1%
ทั้งนี้ S&P ได้คงอันดับริโอ ทินโต ไว้ที่ระดับบวกและต้องจับตามาตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 2550
หากบีเอชพีประสบความสำเร็จในการซื้อบริษัท 100% ของริโอทินโต S&P ระบุว่า ทางสถาบันจะจัดอันดับเครดิตของริโอทินโตให้เทียบเท่ากับบีเอชพี
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า S&P ชี้ว่า หากบีเอชพีถือหุ้นในริโอทินโตอย่างสมบูรณ์ บริษัทที่เกิดจากการรวมกิจการนี้จะกลายเป็นบริษัทที่ไร้คู่แข่งในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เลยทีเดียว เนื่องจากจุดยืนในตลาดที่แข็งแกร่งทั้งในด้านวัตถุดิบ และสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทเหมือง ผลงานด้านพลังงาน
อย่างไรก็ดี ภารกิจในการรวบกิจการนี้ก็จัดว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน เนื่องจากขนาดและความหลากหลายของบริษัททั้ง 2 อีกทั้งยังจำเป็นต้องดำเนินการให้ได้ตามกฎระเบียบและอุปสรรคด้านการแข่งขัน
S&P ระบุว่า หากการซื้อกิจการริโอทินโตไม่ประสบผลสำเร็จ และริโอทินโตยังคงเป็นอิสระต่อไป ก็จะยกเลิกเครดิตที่ต้องจับตาและเป็นบวก และเปลี่ยนมารับรองอันเครดิตแทน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--