นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าจีน(กวางตุ้ง)-ไทย ว่า การเดินทางมาเยือนไทยของคณะผู้บริหารสูงภาครัฐและเอกชน ซึ่งนำโดยนายหลี่ ซี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลกวางตุ้งในครั้งนี้นับเป็นคณะใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ความสัมพันธ์กว่า 40 ปี และเหมาะสมกับช่วงเวลาที่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เป็นคนเดิม ซึ่งจะสานต่อนโยบายให้เกิดความต่อเนื่อง พร้อมมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย และส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง ไทย-กวางตุ้ง หวังเชื่อมโยงนโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) เชื่อมกับ Greater Bay Area: GBA (กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า) เชื่อมต่อกับอาเซียนมายังเขต EEC ของไทย
"เป็นจังหวะดีที่เข้ามาในช่วงนี้ ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ทั้งการทูตและสายเลือด เป็นพื้นฐานที่ไม่มีใครเหมือนจะช่วยให้เกิดการเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี" นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะอันดีที่ไทยเป็นประธานอาเซียนซัมมิท ขณะที่กวางตุ้งเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จึงเป็นข้อต่อสำคัญเชื่อมต่อกับไทยไปยังอาเซียน นับว่าการเชื่อมโยงประชาชนระหว่างอนุภูมิภาค ด้วยการใช้มณฑลกวางต้นเป็นหัวหอกในการเชื่อมนโยบาย GBA กับอาเซียน กวางตุ้งเป็นแหล่งกำเนิดผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการสมัยใหม่จำนวนมาก กวางตุ้งจึงเป็นมณฑลสำคัญอย่างมากและยินดีที่มาเยือนไทยเป็นชาติแรก นับเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการมาเยือนในครั้งนี้ อาเซียนมีการเติบโต 6-8%ต่อปี มีทั้งแรงงาน เครือข่ายอุตสาหกรรม ขณะที่กลุ่มประเทศ RCEP กำลังเกิดขึ้น และ CLMVT โดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง คาดว่าความร่วมมือครั้งนี้ทำให้การค้าการลงทุนสองประเทศแน่นแฟ้นมากขึ้น
ด้านนายหลี่ ซี่ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่า การนำคณะนักธุรกิจจากมณฑลกวางตุ้งเกือบ 200 คน เข้ามาหาช่องทางการลงทุนในเขต EEC มณฑลกวางตุ้งนับเป็นเมืองการค้าและการส่งออกอันดับ 1 ของจีน เป็นเมืองที่มีการพัฒนารองรับอุตสาหกรรม สมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ด้านวิทยาศาสตร์ หุ่นยนต์ผลิต การใช้ระบบไอที เน้นการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงที่สุดในจีน
จีนได้เสนอการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนใน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. กระชับความสัมพันธ์นโยบายกลุ่มประเทศ GBA มายังไทย 2.ขยายความร่วมมือการลงทุนไทยในจีน 755 โครงการ และกวางตุ้งลงทุนในไทย 113 โครงการ 3.การยกระดับการค้า การลงทุน ในด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ E-Commerce ส่งเสริมการพัฒนาระบบ 5 จี 4. ความร่วมมือส่เสริมด้านประมง เกษตร การใช้จ่ายในชทบท 5.การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว จากปัจจุบันจีนเดินทางมาเที่ยวไทยในปี 61 จำนวน 1.5 ล้านคน ให้เดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้น
ขณะที่เศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง (จีดีพี) มูลค่าสูงถึง 1.45 ล้านล้านดอลลาร์ เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10.8% ต่อปีในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นับเป็นมณฑลที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้ามากที่สุดติดต่อกันกว่า 33 ปี ตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา รวมทั้งเป็นมณฑลที่มีการบริโภคสินค้าและบริการสูงที่สุดของจีนติดต่อกัน 36 ปี นับตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 86,412 หยวน เพิ่มขึ้นกว่า 148.2 เท่าเทียบกับปี ค.ศ.1949 ที่มีรายได้เฉลี่ยเพียง 73 หยวน
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า การที่เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์พานักลงทุนเดินทางมาครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทย-จีน เพราะการนัดเจรจาธุรกิจครั้งนี้จะสรุปชัดเจนนับ 100 ราย หลังจากได้เจรจาเบื้องต้นไปแล้ว คาดว่าเกิดการลงทุนเพิ่มเติมนับแสนล้านบาทในอนาคต มองว่า หากนายกรัฐมนตรีได้คัดเลือก ครม.ด้านเศรษฐกิจ หากหน้าตาเหมือนเดิม และให้เกิดการต่อเนื่องจากเดิมที่เจรจากันแล้ว จะทำให้นักลงทุนจีนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น