นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงปี 50 แต่ระดับผลขาดทุนลดลงจากปี 49 เนื่องจากในปี 50 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ปี 49 แข็งค่าขึ้นประมาณ 17% และปีนี้เงินบาทไม่ได้แข็งค่ามากเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการโดยรวมของธปท.มีกำไรถึง 2.2 หมื่นล้านบาทในปี 50
ส่วนการที่รัฐบาลมีแนวทางออกพันธบัตร 5 แสนล้านบาทเพื่อระดมทุนมาใช้ในโครงการรถไฟฟ้า 9 สายนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการออกพันธบัตรของธปท. เนื่องจากสภาพคล่องในระบบขณะนี้มีค่อนข้างสูง และโครงการเมกะโปรเจ็คต์ของรัฐบาลยังใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะต้องการระดมเงินทุนไปใช้ในการก่อสร้าง
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า หากรัฐบาลจะออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนคงต้องพิจารณาถึงความต้องการใช้เงินด้วย แต่การออกพันธบัตรก็จะมีส่วนช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ออมเงิน
"การที่รัฐออกบอนด์เป็นการดูดเงินเข้าระบบแล้วมาฝากธปท.ไว้ เมื่อเอาไปใช้ก็เป็นการอัดฉีดเงินเข้าระบบ แต่หากมีปัญหา ธปท.ก็พร้อมปล่อยสภาพคล่องเข้าตลาด" นางสุชาดา กล่าว
ธปท.มีโควต้าออกพันธบัตร 2.2 ล้านล้านบาท โดยจนถึงปัจจุบันมีการออกพันธบัตรไปแล้ว 1.35 ล้านล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--