นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นหน้าตาหรือตัวบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำกระทรวงต่างๆ ที่ชัดเจน แต่สิ่งสำคัญขอให้บุคคลที่จะเข้ามามีความชำนาญในเรื่องนั้นอย่างจริงจัง หรือมีความตั้งใจทำงาน ถ้าไม่ชำนาญก็ต้องมีทีมงานที่มีความชำนาญเข้ามาช่วย และให้การทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใส และนึกถึงผลประโยชน์กับส่วนร่วม ที่สำคัญคืออะไรที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจอุตสาหกรรมทั้งหลาย อยากขอให้ภาคเอกชนมีโอกาสให้คำเสนอแนะ และนำข้อเสนอแนะของเราไปผลักดันให้เกิดขึ้น
สำหรับโผ ครม. ที่มีการวางตัวให้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.อุตสาหกรรมนั้น ที่ผ่านมามีความคุ้นเคยและเคยทำงานกับภาคเอกชนมาก่อน จึงน่าจะทำงานร่วมกันต่อไปได้ดีอยู่แล้ว
"มีความเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลใหม่เข้ามาจะสานต่อโครงการต่างๆ จากโครงการเดิมที่เป็นเมกะโปรเจ็คต์ ส่วนโครงการที่เป็นขนาดย่อมก็คงขึ้นอยู่กับการผลักดันรัฐมนตรีแต่ละท่าน แต่เราหวังว่าทุกโครงการจะเป็นการบูรณาการ เปิดโอกาสให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วม เช่น การประชุมสำคัญ 2 อย่าง คือ การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่เสนอให้มีการประชุมปีละ 2 ครั้ง หรือ ทุก 6 เดือน และ Ease of Doing Business ทุกๆ 3-4 เดือนนั้นหวังว่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ใหม่นี้" นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวยอมรับว่า ลำบากที่ปีนี้โอกาสที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) จะเติบโตได้ 3-4% คงเป็นไปได้ยาก เห็นได้จาก 4 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกยังติดลบตามปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ การที่ GDP จะโตจากส่งออกคงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณต้องใช้เวลาและการลงทุนภาครัฐยังมีความล่าช้า
ดังนั้น รัฐบาลต้องขยับการบริโภค ผลักดันราคาสินค้าเกษตรจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับภาคการเกษตรมากที่สุด นอกจากนี้อาจจะต้องออกกลไกด้านภาษีออกมาช่วยเหลือและกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยผู้ประกอบการคาดว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการค้าและการลงทุนของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562
"มาตรการช็อปช่วยชาติเป็นเพียงการยกตัวอย่างว่าการนำกลไกทางภาษีมาใช้และเกิดประโยชน์มากขึ้น เพราะถ้ารัฐบาลไม่ลงเงินก็ต้องใช้มาตรการในลักษณะนี้เข้ามาช่วย"นายสุพันธุ์ กล่าว
นอกจากนี้ การตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามปัญหาสงครามการค้า นายสุพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องการตั้งวอร์รูมสำคัญมาก เราพยายามผลักดันให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกันในการเปิดตลาดให้มากขึ้น
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวเสริมว่า จากการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ได้ข้อสรุปว่าจะมีการหารือกันทุก 2 สัปดาห์ในช่วงแรก นอกจากนี้ได้มีการตั้งคณะที่ปรึกษา 10 คน และคณะทำงานซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
"คณะทำงานนี้จะมีการประชุมกันเป็นรายสัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ขอให้ได้รัฐบาล ให้ได้รัฐมนตรีก่อน"นายมนตรี กล่าว