นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำการแทนผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะสรุปผลการประมูลโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ในส่วนของงานโยธา สัญญา 1- 4 วงเงินรวม 29,154.230 ล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะกรรมการกทพ.อนุมัติ ซึ่งหลังบอร์ด กทพ. อนุมัติ และประกาศผลประมูลแล้ว หากเอกชนรายใด มีข้อสงสัย สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 7 วัน ส่วนกรณีของบมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ที่ยื่นร้องเรียนผู้เกี่ยวข้องนั้นได้มีการชี้แจงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม คาดว่า สามารถลงนามกับผู้ชนะประมูลทั้ง 4 สัญญาได้ภายในปีงบประมาณ 2562 ซึ่ง กทพ.จำเป็นต้องเร่งรัดลงนามเพื่อเบิกจ่ายเงินค่างานงวดแรก 15% ของสัญญารวมประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ TFFIF มีจำนวน 44,811 ล้านบาท
ส่วนสัญญาที่ 5 งานระบบควบคุมและการจัดเก็บค่าผ่านทางวงเงิน 877.4 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนประมูล โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ซึ่งมีแนวคิดอาจจะชะลอการประมูลไปก่อน เนื่องจากระบบจะเริ่มติดตั้งก่อนที่งานโยธาจะเสร็จประมาณ 2 ปี ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเร่งประมูล โดยฝ่ายบริหารเห็นว่า งานโยธาใช้เวลาก่อสร้างกว่า 3 ปี ขณะที่งานระบบก่อสร้าง 2 ปี ดังนั้น ยังมีเวลารอและพิจารณาระบบที่เหมาะสมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประโยชน์มากที่สุด
นายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ในการขยายสัมปทานโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน A ,B ,C ) , ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และ โครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (C บวก)ออกไปอีก 30 ปีให้กับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ขณะนี้ อัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างสัญญา ซึ่งเป็นไปตามแนวทางดำเนินการคดีข้อพิพาทระหว่าง กทพ. กับ BEM ซึ่งหลังอัยการส่งร่างสัญญากลับมา กทพ.จะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. เพื่อทราบ จากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคม และเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป
ทั้งนี้หากทางอัยการ มีข้อสังเกตเพิ่มเติม บอร์ดกทพ. จะต้องพิจารณาในประเด็นเหล่านั้นด้วย โดยก่อนหน้านี้ ในการยกร่างสัญญาได้มีข้อสังเกตของฝ่ายต่างๆ นั้น ซึ่งได้นำชี้แจงต่ออัยการสูงสุดไปแล้ว
ส่วนกรณีที่สหภาพฯกทพ.ยังต้องการให้ทบทวนข้อยุติการเจรจานั้น ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ ทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ขณะที่การดำเนินการ จะเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด โดยบอร์ดกทพ.กำหนดประชุมในวันที่ 27 มิ.ย. ซึ่งยังไม่ทราบว่าอัยการ จะส่งร่างสัญญากลับมาหรือยัง