นายชนะ คณารัตนดิลก รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จะขอแนวนโยบายจากนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ต่อการเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี(FTA)ไทย-อินเดีย เนื่องจากการเจรจาครั้งล่าสุด อินเดียได้ขอรื้อบัญชีรายการสินค้าลดภาษีกว่า 5,000 รายการที่เคยตกลงร่วมกันไปแล้วตั้งแต่เดือน ก.ย.50
ทางฝ่ายอินเดีย อ้างว่ามูลค่าการค้าที่ต้องมีการเปิดตลาดของอินเดียและไทยไม่สมดุลกัน เพราะภาษีนำเข้าสินค้าของไทยในรายการดังกล่าวส่วนใหญ่ต่ำกว่า 5% อยู่แล้ว ทำให้อินเดียไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร
นายชนะ กล่าวว่า อินเดียได้ขอให้ไทยเพิ่มมูลค่าการเปิดตลาดให้มากขึ้น โดยอินเดียจะย้ายสินค้าบางรายการที่ตกลงลดภาษีเป็น 0% ไปแล้ว กลับคืนมาเป็นสินค้าอ่อนไหวที่ยังไม่พร้อมจะลดภาษี เพราะผู้ประกอบการยังไม่พร้อมรับต่อการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมี และสิ่งทอ ซึ่งไทยยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะเท่ากับว่าจะทำให้การเจรจาต้องถอยหลังออกไป จากที่เคยคาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้แม้การเจรจา FTA ไทย-อินเดีย จะไม่สำเร็จผลก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เพราะไทยได้ดุลการค้าจากการค้าสินค้าเร่งลดภาษีก่อน 82 รายการ เฉลี่ยปีละประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพียงแต่ผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับต้องลดลง เพราะเดิมคาดว่าหลังลงนาม FTA ระหว่างกันจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากประมาณ 4,600 ล้านเหรียญสหรัฐ และภายใน 3 ปีจะเพิ่มเป็น 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่อการเจรจา FTA อาเซียน-อินเดียได้
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--