ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) เดือน พ.ค.62 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 43.7 จากเดิมที่ระดับ 43.5 ในเดือนเม.ย. 62 จากความกังวลที่ลดลงต่อประเด็นเรื่องภาระหนี้สินเป็นสำคัญ โดยการสำรวจภาวะการครองชีพของครัวเรือน พบว่า 16.7% ของครัวเรือนไทยที่ทำการสำรวจมีค่างวด (หนี้) ที่ต้องชำระลดลงในเดือนพ.ค. 62 ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 62 ที่อยู่ที่ 10.6% ในขณะเดียวกัน ครัวเรือนที่มีค่างวดที่ต้องชำระเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. 62 ก็มีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับผลการสำรวจเมื่อเดือนก่อนหน้า จากเดิมที่ 23.9% ในเดือนเม.ย. มาอยู่ที่ 21.5% ในเดือนพ.ค. 62
สาเหตุหลักๆ เป็นผลมาจากการชำระค่างวด (หนี้) จากการกู้ยืม จำนำ หรือกดเงินสดจากบัตรกดเงินสดเพื่อนำมาชำระค่าเล่าเรียนบุตรหลานที่ทางโรงเรียนทยอยเรียกเก็บในช่วงเดือนเม.ย. 62 ไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า สัดส่วนครัวเรือนที่มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นจากการขอสินเชื่อใหม่เพื่อซื้อบ้าน รถยนต์ หรือเพื่อการลงทุนประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพ.ค. 62 ส่วนหนึ่งเป็นผลของมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองที่กระทรวงการคลังออกนโยบายมาเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 62 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 30 เม.ย. จนถึง 31 ธ.ค. 62
นอกจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแล้ว มาตรการพยุงเศรษฐกิจช่วงกลางปี 62 อื่น ๆ ก็มีส่วนช่วยประคับประคองการบริโภคภายในประเทศ จากการสำรวจเพิ่มเติม พบว่า 57.6% ของครัวเรือนไทยที่ทำการสำรวจมองว่า มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 62 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของตนเองในเดือนพ.ค. 62 ได้จริง โดยมาตรการภาษีที่มีผลกระตุ้นการใช้จ่ายของครัวเรือนมากที่สุด ได้แก่ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยและมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าเกี่ยวกับการศึกษาและกีฬาซึ่งช่วยให้ผู้ปกครองประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับค่าซื้อสินค้าหมวดดังกล่าวในทางอ้อมด้วย
ในขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ทรงตัวที่ระดับ 45.7 ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการสำรวจในช่วงเดือนเม.ย. 2562 โดยในระยะ 3 เดือนข้างหน้า (เดือนมิ.ย. –ส.ค. 2562) ครัวเรือนมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ลดลง แต่มีความกังวลเรื่องภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากมาตรการพยุงเศรษฐกิจช่วงกลางปี 2562 ที่มีส่วนช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของครัวเรือนกลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้พิการ รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ในขณะเดียวกัน มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 62 โดยเฉพาะมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองก็มีส่วนเร่งรัดให้ครัวเรือนตัดสินใจวางแผนขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยภายในปี 62 เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทยในช่วงไตรมาสที่ 3/62 ยังเผชิญหลายปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระดับราคาสินค้าภายในประเทศ โดยเฉพาะอาหารสด ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสภาวะฝนทิ้งช่วงในฤดูฝน ซึ่งเป็นผลของภาวะเอลนีโญที่มีโอกาสจะลากยาวไปจนถึงช่วงต้นปี 63
นอกจากนี้ การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ซึ่งอาจจะยังผลเป็นลูกโซ่มายังสภาพคล่องของภาคธุรกิจและการจ้างงานภายในประเทศ อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะนโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง เช่น การเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ นโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคม รวมไปถึงมาตรการเกี่ยวกับภาษี เป็นต้น ซึ่งอาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศช่วงครึ่งหลังของปี 62