นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน-ประเทศไทย (ASEAN BAC) จัดสัมมนาระดับนานาชาติ ‘Symposium on ASEAN Human Empowerment And Development’ หรือ ‘AHEAD’ ในวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562 เพื่อจัดทำแนวทางการพัฒนาแรงงานมีทักษะและผู้ประกอบวิชาชีพรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) ของอาเซียน โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ให้เกียรติกล่าวเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษ และมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นความท้าทาย ผลกระทบ โอกาสจากยุค 4IR รวมถึงการยกระดับแรงงานทักษะ ตลอดจนนโยบายและแนวทางการพัฒนาทักษะแรงงานและผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
สำหรับผลที่ได้รับจากการสัมมนาครั้งนี้ จะนำไปใช้ประกอบการจัดทำแนวทางการพัฒนาแรงงานมีทักษะและผู้ประกอบการวิชาชีพอาเซียนเพื่อรับมือกับ 4IR เสนอต่อรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนให้ความเห็นชอบและเสนอผู้นำอาเซียนรับทราบต่อไป
ปัจจุบันโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยเข้ามามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่การผลิต การบริโภค รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การสร้างโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้ในทุกหน่วยของการผลิตแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะราย การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) หรือหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานมนุษย์ การเชื่อมต่อข้อมูลจากคนสู่สิ่งของด้วยระบบเซนเซอร์ และการจัดลำดับพันธุกรรมด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ
ประกอบกับผลการศึกษาของอาเซียนที่พบว่า การเข้าสู่ยุค 4IR จะส่งผลให้มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของ 6 ตลาดใหญ่อาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เติบโตจากปัจจุบันที่มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปสู่ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 ส่งผลให้อาเซียนจะกลายเป็นภูมิภาคที่มีขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลใหญ่ที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ทำให้ไทยในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ให้ความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมของอาเซียนเพื่อก้าวสู่อนาคต โดยเฉพาะการรองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ 4IR ได้รับการสนับสนุนจากทุกประเทศสมาชิกอาเซียนให้ผนวกเรื่องนี้เป็น 1 ใน 13 ประเด็นเศรษฐกิจที่อาเซียนจะต้องเตรียมรับมือ
ดังนั้น งานสัมมนา ‘AHEAD’ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการไทยเข้าใจถึงผล กระทบและโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 รวมถึงสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ