พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนที่ไทยเป็นประธานประชุมในปีนี้ เนื่องจากการประชุมครั้งนี้ จะมีข้อสรุปร่วมกันในหลายประเด็น ทั้งสังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง และวัฒนธรรม ซึ่งในวันนี้ต้องเน้นเรื่องเศรษฐกิจที่ยังมีปัญหาอยู่ จึงต้องหารือกันในเวทีอาเซียน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้เตรียมมาตรการด้านเศรษฐกิจ เพื่อรับมือปัญหาเศรษฐกิจโลกไว้ ทั้งปัญหาสงครามการค้า ความขัดแย้งด้านพลังงาน เพราะไทยเป็นประเทศเล็กย่อมได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องหารือร่วมกันในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย
ทั้งนี้ ตลอดทั้งปีจะมีการจัดประชุมย่อยในระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และในช่วงปลายปีก็จะสรุปผลประชุมตลอดทั้งปี เพื่อส่งต่อให้เจ้าภาพในปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม การประชุมสุดยอดอาเซียนจะมีผลต่อเนื่องในการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 20 แห่ง (G20) ที่จะจัดขึ้นที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้ ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และการมีโอกาสไปร่วมหารือในนามของอาเซียนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ไทยเป็นแกนหลัก คือการจัดตั้งกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำอิระวดี เจ้าพระยา แม่โขง (ACMECS) ในกลุ่มประเทศ CLMVT ที่ได้รับการตอบรับและความสนใจจากต่างประเทศ และมีการอนุมัติกองทุน ACMECS Fund ซึ่งในฐานะที่ไทยเป็นผู้ริเริ่มก็ได้สมทบเงินเข้ากองทุน เพื่อต่อยอดเชื่อมโยงในการลงทุนต่างๆ จากธนาคารระหว่างประเทศ ขณะที่ประเทศใหญ่ๆ ก็เริ่มสนใจเข้าร่วมสมทบกองทุนนี้