นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) และสำนักงบประมาณ จะหารือกันในวันที่ 12 ก.พ.นี้ ภายใต้แนวคิด"วอร์รูมเศรษฐกิจ"
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงการคลัง ก็จะมีการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันที่ 11 ก.พ.เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมกับทั้ง 3 หน่วยงาน
นายสมชัย กล่าวว่า แนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นไปได้มีหลายแนวทาง เช่น การเพิ่มงบประมาณกลางปี ซึ่งคงต้องใช้เงินกู้ภายในประเทศเป็นหลัก เพราะรายได้ประจำปีงบประมาณ 2551 คงจะไม่สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.495 ล้านล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ประกอบกับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในปัจจุบันอยู่ที่ 37-38% จากกรอบ 50% ต่อจีดีพี ทำให้รัฐยังมีช่องเพียงพอที่จะก่อหนี้เพิ่มได้
"ส่วนที่จะทำงบประมาณเพิ่มเติม คงต้องกู้ในประเทศเพิ่ม เพราะการขาดดุลที่ใช้เงินในประเทศ ก็ควรกู้ในประเทศ และการจัดเก็บรายได้ปีนี้คงไม่เกินจากเป้าที่ตั้งไว้เท่าไหร่" นายสมชัย กล่าว
สำหรับการนำมาตรการภาษีมาใช้นั้น นายสมชัย กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีออกมาหรือไม่ เนื่องจากต้องพิจารณาก่อนว่าจะกระทบต่อฐานะการคลังมากน้อยอย่างไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีมาตรการภาษีบางอย่างที่กรมสรรพากรเตรียมการศึกษาไว้ เช่น การเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 60,000 บาท เป็น 100,000 บาทต่อคนต่อปี
ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่จะครบกำหนดผ่อนผันให้ลดมาเหลือ 7% จาก 10% สิ้นสุด ก.ย.51 นี้นั้น คาดว่าจะมีการหยิบยกมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะจัดเก็บในระดับเดิมที่ 10% หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและฐานะการคลัง ณ เวลานั้น โดยขณะนี้ยังมีเวลากว่าจะถึงเดือน ก.ย.
"เรื่อง VAT เราคงไม่แตะจนถึงเดือนกันยายน แล้วจึงค่อยมาพิจารณากันอีกทีว่าภาวะเศรษฐกิจและฐานะการคลังในขณะนั้นเป็นอย่างไร...ไม่เป็นไร เราคงไม่เพิ่ม VAT เพื่อมาทำงบกลางปี เพราะเราทำงบขาดดุล ก็แปลว่ากู้ได้ แต่ยืนยันว่าฐานะการคลังไม่น่ามีปัญหาอย่างแน่นอน" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยถึงการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่สำหรับนโยบายประชานิยมต่างๆ ที่เห็นว่ามีความเหมาะสมก็จะเดินหน้าต่อ เช่น นโยบายกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งก็จะนำมาต่อยอดเป็นธนาคารหมู่บ้าน แต่ก็จะทำในลักษณะปรับโครงสร้างการผลิตด้วย เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ จะออกมาได้พร้อมกับการแถลงนโยบายรัฐบาลในช่วงเดือนก.พ.นี้
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--