ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไร ถ่วงดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักๆ

ข่าวต่างประเทศ Monday February 11, 2008 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.พ.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยและธนาคารกลางยุโรปประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4506 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4459 ดอลลาร์ต่อยูโร และค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.9455 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9405 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 107.38 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.42 เยนต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.1018 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1047 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0009 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0117 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรัฐบาลแคนาดาเปิดเผยว่า อัตราว่างงานภายในประเทศเดือนม.ค.ลดลงแตะระดับ 5.8% จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 6%
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ค่าเงินปอนด์และยูโรอ่อนตัวลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ขยายตัวต่อไปได้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 4% ตามความคาดหมาย แม้อัตราเงินเฟ้อในยุโรปปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยแม้เป็นหนึ่งในแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะทำให้สกุลเงินในประเทศนั้นๆอ่อนค่าลงและไม่น่าดึงดูดใจ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวในช่วงสุดสัปดาห์ โดยที่ประชุมยืนยันที่จะ ร่วมมือกันในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินโลกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้บั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ในการประชุม G7 ครั้งนี้ นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐเรียกร้องให้ธนาคารต่างๆยอมรับการขาดทุนและระดมทุนโดยเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสินเชื่อตึงตัว พร้อมกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในปี 2551 และปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเหมาะสม แม้ว่ามีความเสี่ยงในช่วงขาลงมากขึ้นก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ