รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้กระทรวงคมนาคมและ ขสมก. ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลังไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
แผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ขสมก.ใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงระบบการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความสามารถในการหารายได้และการบริหารจัดการหนี้สิน ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารองค์กรที่ยั่งยืนและลดภาระกับภาครัฐ
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเมื่อวันที่ 15 พ.ค.62 รับทราบและเห็นควรให้นำเสนอ ครม.สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
วัตถุประสงค์ที่ 1 เพื่อปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้รถใหม่และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
กลยุทธ์ที่ 1 จัดหารถโดยสารใหม่/ปรับปรุงสภาพรถเดิม เช่น ซื้อรถ NGV ปรับปรุงรถ NGV เดิม ซื้อรถไฮบริด รถ EV เช่ารถโดยสารใหม่
กลยุทธ์ที่ 2 การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เช่น ติดตั้งระบบ E – Ticket ชำระค่าโดยสารด้วย QR – Code ติดตั้งระบบ GPS ให้บริการ WIFI บนรถ
กลยุทธ์ที่ 3 การปรับปรุงเส้นทางเดินรถ เช่น เชื่อมต่อเส้นทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ให้บริการเส้นทางที่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ
ส่วนวัตถุประสงค์ที่ 2 เพื่อให้ ขสมก. สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ลดภาระกับภาครัฐ
กลยุทธ์ที่ 1 ลดค่าใช้จ่ายพนักงาน เช่น โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับลง ลดพนักงานเป็น 2.75 คนต่อรถ 1 คันภายในปี 65 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.14 คน ต่อรถ 1 คัน
กลยุทธ์ที่ 2 ลดค่าซ่อมบำรุงและค่าเชื้อเพลิง เช่น จัดหารถใหม่ให้ได้ตามแผน เพื่อลดค่าซ่อมบำรุง และจัดหารถที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นแทนน้ำมันดีเซล
กลยุทธ์ที่ 3 เพิ่มรายได้ เช่น พัฒนาพื้นที่อู่บางเขนเป็นศูนย์การค้า โรงแรมระดับบน และพื้นที่อู่มีนบุรีเป็นตลาด
กลยุทธ์ที่ 4 การบริหารหนี้สิน
นายณัฐพร กล่าวว่า หาก ขสมก.สามารถดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟูดังกล่าวจะทำให้ EBITDA เป็นบวกได้ตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป