ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์สเตอริงที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (11 ก.พ.) โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่องหลังจากที่กลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 7) ได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
จอห์น ไคเรียคูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอลกล่าวว่า "กลุ่มประเทศจี 7 มุ่งให้ความสำคัญต่อประเด็นความเสี่ยงที่ฉุดเศรษฐกิจเผชิญช่วงขาลง อันเป็นผลจากวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ สถานการณ์ในตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว และความผันผวนในตลาดเงินที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 06.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.4529 ดอลลาร์ต่อยูโร เมื่อเทียบกับ 1.4507 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาก่อนหน้าที่จะมีการประชุมจี7 ขณะที่ค่าเงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ 1.9466 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับ 1.9460 ดอลลาร์ต่อปอนด์ในช่วงวันศุกร์หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25%
อย่างไรก็ตามเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 107.52 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.34 เยนต่อดอลลาร์
โดยกลุ่มประเทศจี7 เน้นย้ำว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศควรสะท้อนถึงพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งสถานการณ์ความผันผวนและวุ่นวายของตลาดจะไม่ส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ที่ประชุมจะจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดเงินอย่างใกล้ชิดและให้ความร่วมมือกันตามความเหมาะสม
ขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ 89.68 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 89.56 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางออสเตรเลียจะแถลงการณ์นโยบายการเงินรายไตรมาสในเช้าวันนี้
โดยตลาดคาดว่าแถลงการณ์ดังกล่าวจะยิ่งตอกย้ำกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--