นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดการณ์ว่าในปี 2562 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 40.06 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.65% จากปี 61 และสร้างรายได้ 2.13 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.23% จากปี 61
โดยในเดือนพ.ค.62 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยมีจำนวน 2.73 ล้านคน ขยายตัว 1.03% สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.34 แสนล้านบาท ขยายตัว 0.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้จบไตรมาส 2/62 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวน 9.09 ล้านคน ขยายตัว 2.48% จากไตรมาส 2/61
ทั้งนี้ คาดว่าจบครึ่งปีแรกของปี 62 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีจำนวนประมาณ 19.89 ล้านคน สร้างรายได้ 1.05 ล้านล้านบาท
ขณะที่คาดการณ์ว่าในไตรมาส 3/62 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.70 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.06% จากไตรมาส 3/61 แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศอาเซียน 2.78 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.3% นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.98% นักท่องเที่ยวจากยุโรป 1.26 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.88%
"การท่องเที่ยวปัจจุบันคือเฟืองเศรษฐกิจไทย GDP สูงถึง 20% ซึ่งหลังได้รัฐบาลจะเข้าหารือกับ รมว.ท่องเที่ยวเพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อให้ประเทศไทยเป็น Hub ด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาค"นายชัยรัตน์ กล่าว
สำหรับข้อเสนอแนะที่มีต่อภาครัฐ ได้แก่ ขอให้ภาครัฐควรร่วมมือกับ สทท. ส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว สนับสนุนให้มีการศึกษาศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกขั้นตอนและทุกจังหวัด, ขยายเวลาคืนภาษีและเพิ่มจุดคืนภาษีในเมืองให้นักท่องเที่ยว, ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองหลักควบคู่กับเมืองรองมากขึ้นผ่านช่องทางต่างๆ,
พัฒนาระบบคมนาคมเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองรอง, เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลการเดินทางให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง มีความสะดวกและมีมาตรฐาน, ควรดำเนินการแก้ไขในระยะยาวในหลายด้าน ทั้งด้านของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน ควบคุมปริมาณการก่อสร้างในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการสร้างผลประโยชน์ด้านภาษีแก่สถานประกอบการที่มีการดำเนินการเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม, เดินหน้าสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งจะต้องมีการเตรียมการรองรับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านนางสุมาลี ว่องเจริญกุล เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 100 สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างทรงตัวเท่ากับคาดการณ์ไว้จากไตรมาสก่อน สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปีก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวล มาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทั้งในด้านการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม และภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงซบเซาทำให้กำลังซื้อลดลง
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ในไตรมาสที่ 3/62 เท่ากับ 100 เป็นการคาดการณ์ในระดับปกติต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน
"แม้ในไตรมาสหน้าจะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และผู้ประกอบการยังมีความกังวลจากสภาวะเศรษฐกิจไทย แต่จากการที่ภาครัฐยังมีมาตรการทางภาษีที่ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้วยการขยายเวลาโครงการคืนภาษีนักท่องเที่ยวจากเดิมที่สิ้นสุด 31 มี.ค. เป็น 30 ก.ย.และเพิ่มจุดในการคืนภาษี (Vat refund) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว"
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเสนอแนะภาครัฐควรเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องจุดคืนภาษีให้เป็นที่รับทราบในวงกว้างเนื่องจากพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่ทราบนโยบายดังกล่าว (ร้อยละ 40) หรือทราบแล้วแต่ยังไม่เคยใช้ (ร้อยละ 43) มีเพียงส่วนน้อยที่จะยื่นขอลด VAT (ร้อยละ 6) แต่เกือบทั้งหมดเป็นการขอลด VAT ที่สนามบิน สะท้อนว่าที่ผ่านมาการเพิ่มจุดคืน VAT ในเมืองยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวเห็นว่าควรมีจุดคืน VAT ในทุกห้างสรรพสินค้า (ร้อยละ 22) และในมินิมาร์ท (ร้อยละ 18) อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวบางส่วนเห็นว่าจุดคืน VAT ที่สนามบินนั้นเพียงพอกับความต้องการแล้ว (ร้อยละ 18)
สำหรับปัจจัยการเมืองที่นิ่งสงบ การเลือกตั้งจบเรียบร้อย ได้นายกรัฐมนตรี ถือเป็นปัจจัยที่เป็นผลบวกต่อการท่องเที่ยว
"ภาพลักษณ์สู่ภายนอกเรามีความมั่นคงทางการเมืองแล้ว การเมืองนิ่ง สงบมากขึ้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่เป็นดาวรุ่ง เช่น อินเดีย หรืออาเซียน เช่น เวียดนามมีการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศ และ Free VISA on Arrival ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อประเภท Cruises ก็นิยมมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น"นางสุมาลี กล่าว
ส่วนปัจจัยที่จะกดดันการท่องเที่ยว คือ เศรษฐกิจชะลอตัวลงจากเดิมที่เคยโต 10% ต่อปี คาดว่าปีนี้จะเหลือโต 5% นอกจากนี้ ปัญหาสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและขยายวงกว้าง อาจจะทำให้เกิดอุปสรรคบ้าง อาจทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีนี้ไม่ถึง 12 ล้านคน แต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 11 ล้านคน, ค่าเงินบาทแข็งค่ามาก, ประเทศไทยยังขาดท่าเรือน้ำลึกรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่เข้าเทียบท่า และแนวโน้มที่จะเกิดปัญหา Over Tourism ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต