ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ตามคาด มติดังกล่าวส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องใกล้ระดับ 30.70 จากระดับ 30.868 ในช่วงก่อนการประกาศ เนื่องจาก ธปท. มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับปัจจุบันเหมาะสมต่อสภาพเศรษฐกิจแล้ว พร้อมทั้งยังคงแสดงความกังวลต่อพฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นในภาวะดอกเบี้ยต่ำและการก่อหนี้ ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงมากจากผลกระทบจากต่างประเทศทั้งด้านสงครามการค้าและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง อีกทั้งการใช้จ่ายภาครัฐยังมีแนวโน้มล่าช้าจากการเลื่อนพิจารณางบประมาณรายจ่ายออกไปยังต้นปีหน้าก็ตาม
นอกจากนี้ ธปท. แสดงความกังวลต่อเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วในเวลานี้นั้นไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่ต้นปีเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคคิดเป็นอัตราแข็งค่า 5.84% จากต้นปี ซึ่งธปท. จะติดตามสถานการณ์เงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย คาดว่า กนง. จะคงอตัราดอกเบี้ยนโยบายตลอดทั้งปีที่ 1.75% โดยมีปัจจัยที่พิจารณา ดังนี้ (1) อัตรา เงินเฟ้อยังเฉลี่ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าขอบล่างของเป้าหมายเงินเฟ้อ (2) เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง โดยเฉพาะจากผลกระทบของสงครามการค้าที่ส่งผลต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว (3) เงินบาที่แข็งค่ารวดเร็วและมากที่สุดในภูมิภาค(4) นโยบายการเงินของโลกผ่อนคลายมากขึ้นโดยเฉพาะเฟดที่ตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ (5) หนี้ ครัวเรือนของไทยแม้ว่ายังคงอยู่ในระดับสูงที่ 78.6% ทำให้การปรับลดดอกเบี้ยอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านคุณภาพของสินเชื่อต่อไปได