ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.62 ชะลอลงจากเดือนก่อนจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ โดยการบริโภคภาคเอกชนยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐหดตัว ด้านการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวสอดคล้องกัน สำหรับภาคการท่องเที่ยวกลับมาหดตัวจากนักท่องเที่ยวจีนและยุโรปเป็นสำคัญ
ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลง และราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลง สำหรับอัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลทรงตัวจากเดือนก่อน ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยตามดุลการค้าที่เกินดุลลดลง และดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลตามฤดูกาลส่งกลับบกำไรและเงินปันผลของธุรกิจต่างชาติ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายค่อนข้างสมดุล
สำหรับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อนในเกือบทุกหมวด การใช้จ่าย ยกเว้นในหมวดสินค้าคงทนที่ทรงตัว ตามปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อโดยรวมที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตรกรรมขยายตัวจากทั้งผลผลิตและราคา ขณะที่รายได้ลูกจ้างนอกภาคเกษตรกรรมทรงตัว
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งเครื่องชี้การลงทุนในหมวดก่อสร้างที่หดตัว โดยพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างทั่วประเทศหดตัวต่อเนื่องยกเว้นพื้นที่เพื่อการอุตสาหกรรม ประกอบกับยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างหดตัวหลังจากที่เร่งไปในช่วงก่อนหน้า และเครื่องชี้การลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์หดตัวตามยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศและยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสูงในระยะเดียวกันปีก่อนเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี เมื่อขจัดผลของฤดูกาลแล้ว เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน
การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามรายจ่ายประจำที่หดตัวจากผลของฐานสูงในปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานภายหลังการปรับเปลี่ยนวิธีการเบิกจ่ายงบประมาณ ประกอบกับมีการตกเบิกงบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยในในเดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี ด้านรายจ่ายลงทุนยังขยายตัวได้ตามการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน ที่เริ่มก่อสร้างได้ภายหลังการทบทวนโครงการลงทุนให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัว 7.2% จากระยะเดียวกันปีก่อน และหากหักทองคำหดตัวที่ 6.1% เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ผลของมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังชะลอลงต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่กลับมาหดตัว ส่งผลให้การส่งออกในหลายหมวดสินค้ายังคงหดตัว ได้แก่ สินค้าที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบ ยานยนต์และชิ้นส่วน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวและยางพารา และสินค้าเกษตรแปรรูปโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยางและน้ำตาล
อย่างไรก็ดี การส่งออกในบางหมวดสินค้ายังขยายตัวได้ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าตามการส่งออก เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องรับโทรทัศน์สินค้าเกษตรตามการส่งออกผลไม้และยานยนต์และชิ้นส่วนตามการส่งออกรถจักรยานยนต์และยางล้อเป็นสำคัญ
ด้านมูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวเล็กน้อยที่ 0.2% จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการนำเข้าทองคำที่หดตัวสูง โดยหากหักทองคำขยายตัวที่ 1.1% จากการนำเข้าสินค้าในหมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางตามการนำเข้าน้ำมันดิบที่ปริมาณขยายตัวจากผลของฐานต่ำในปีก่อนเนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นเป็นสำคัญ ขณะที่การนำเข้าหมวดสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบินและแท่นขุดเจาะหดตัวตามการนำเข้า โทรศัพท์มือถือและส่วนประกอบ และเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวในเดือนนี้
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาหดตัวเล็กน้อยที่ 1.0% จากระยะเดียวกันปีก่อนตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลงและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้าน และจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปโดยเฉพาะเยอรมันและรัสเซียที่หดตัวจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดหลักอื่นๆ ยังขยายตัว อาทิ นักท่องเที่ยวมาเลเซีย จากผลของฐานต่ำในระยะเดียวกันปีก่อนตามการชะลอการท่องเที่ยวก่อนการเลือกตั้งในประเทศในปีที่แล้ว และนักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม visa on arrival ทั้งนี้ เมื่อขจัดผลของฤดูกาลแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากเดือนก่อนจากนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นสำคัญ จากปัจจัยชั่วคราวที่มีการชะลอการเดินทางท่องเที่ยวเนื่องจากมีเลือกตั้งภายในประเทศ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.15% ชะลอจาก 1.23% ในเดือนก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลง และราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลง ขณะที่ราคาหมวดอาหารสดปรับเพิ่มขึ้นจากราคาผักเป็นสำคัญ สำหรับอัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลทรงตัวจากเดือนก่อน ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยตามดุลการค้าที่เกินดุลลดลง และดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลตามฤดูกาลส่งกลับกำไรและเงินปันผลของธุรกิจต่างชาติขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายค่อนข้างสมดุล
น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ธปท. คาดว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากการลงทุนภาคเอกชนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น การลงทุนในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ขณะที่ ธปท.จะติดตามผลการเจรจาการค้าในระหว่างการประชุมกลุ่ม G20 เพื่อประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอย่างไร เบื้องต้นคาดว่าไตรมาส 2/62 จะยังคงติดลบ แต่ครึ่งปีหลังมีโอกาสเป็นบวกได้
น.ส.พรเพ็ญ กล่าวว่า กรณีการแข็งค่าของเงินบาทที่ส่งผลต่อการส่งออก จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการก็พยายามบริหารความเสี่ยงจากค่าเงินที่มีความผันผวน ซึ่งทางธปท.ก็พยายามเพิ่มเครื่องมือในการบริหารจัดการเช่นกัน