ธนาคารฮั่งเส็งในรายงานการวิจัยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของฮ่องกง (CPI) ตลอดทั้งปี 2551 จะขยับตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 3.5% จากระดับเฉลี่ยที่ 2.0% ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าฮ่องกงจะมีแรงกดดันด้านราคาสินค้าที่ขยายตัวสูงขึ้นก็ตาม โดยอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง รวมถึงปัจจัยด้านดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และสถานการณ์เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าขณะที่เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นนั้นต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น
"อย่างไรก็ตาม แม้ฮ่องกงจะมีปัจจัยที่ส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น แต่ผลกระทบด้านอื่นๆของการยกเลิกภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์ประกอบกับอุปสงค์จากภายนอกที่ชะลอตัวลงอาจช่วยฉุดรั้งตัวเลข CPI ไม่ให้ขยายตัวขึ้นมากนัก"
สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายโดนัลด์ ซัง ประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่มีขึ้นในระหว่างแถลงนโยบายประจำปีเมื่อเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมาว่า ทางการได้ยกเลิกการเก็บภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดณ วันที่ 31 มี.ค.ปีนี้
ธนาคารฮั่งเส็งกล่าวว่า ธนาคารคาดว่า อัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยในปีนี้น่าจะพุ่งขึ้นแตะที่ 3.5% เท่านั้น ซึ่งเป็นผลจากการยกเว้นภาษีในภาคอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ รัฐบาลเปิดเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า CPI ปรับตัวสูงขึ้น 3.8% ในเดือนธ.ค.จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งไต่ระดับขึ้นจากที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.4% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ ธนาคารกล่าวว่า ดัชนี CPI ที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีสาเหตุหลักมาจากราคาเนื้อหมูนำเข้าจากจีนที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--