นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สมาคมอุตสาหกรรมต่างๆ ไปจัดทำสรุปแนวโน้มการส่งออกของแต่ละสินค้า, อัตราการเติบโตหรือแนวโน้มตลาดว่าปัจจุบันส่งออกไปประเทศไหนบ้าง และต้องการที่จะเพิ่มยอดการส่งออกไปตลาดใหม่ๆ ที่ใด
พร้อมกันนี้ขอให้สรุปปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกของแต่ละอุตสาหกรรมที่ต้องการจะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา เพื่อให้การส่งออกขยายตัวดีขึ้นด้วย
"เมื่อแต่ละอุตสาหกรรมเสนอข้อมูลเข้ามา จะทำให้เรารู้ว่าทิศทางการส่งออกของแต่ละกลุ่มสินค้าเป็นยังไง ตลาดใหม่ๆ ที่เขาต้องการไปเจาะมีที่ไหนบ้าง ซึ่งเราจะนัดแต่ละกลุ่มมาคุย แล้วมาจัดเป็นกลุ่มๆ ที่จะออกไปทำตลาด โดยตั้งใจว่าจะพากลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ออกไปทำตลาดทุกไตรมาส หรือมากกว่านั้น ถือเป็นการไปเยี่ยมลูกค้าเก่า และหาลูกค้าใหม่ เป็นแผนเชิงรุกที่จะทำ" นายมิ่งขวัญกล่าว
สำหรับตลาดเป้าหมายที่จะเน้นการไปทำตลาดเพิ่มเติมนั้นจะมุ่งไปยังตลาดใหม่ และตลาดที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันสูง มีกำลังซื้อมาก รวมถึงตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญอยู่แล้ว เช่น จีน อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เพราะตลาดเหล่านี้ บางตลาดมีประชากรมาก และมีคนรวยมาก ขณะที่บางตลาดเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และสามารถใช้ประโยชน์ในการส่งออกต่อได้อีก
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ยอมรับว่าแผนการทำตลาดส่งออกเพื่อหารายได้เข้าประเทศ จำเป็นต้องใช้เงินสูง ซึ่งจะพิจารณาว่างบประมาณส่งเสริมการส่งออกเดิมที่มีอยู่ เพียงพอหรือไม่ หากไม่เพียงพอก็จะเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อของบประมาณเพิ่มเติม และเร็วๆ นี้จะเรียกประชุมหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อชี้แจงนโยบายการทำงาน และจะสอบถามถึงแนวโน้มการส่งออกในแต่ละตลาด
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เพราะเป็นตลาดส่งออกที่มีสัดส่วนสูง 19-21% ดังนั้นถือเป็นงานเร่งด่วนที่จะต้องหาทางอุดช่องโหว่ตรงนี้
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--