นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ขยายระยะเวลาให้โรงพยาบาลเอกชน 353 แห่ง แจ้งราคาซื้อขายยาในกลุ่มบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิ์ทุกที่ (UCEP) และรายการยาที่มีการจำหน่ายสูงสุด 100 รายการแรก รวมทั้งหมด 3,992 รายการ เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.62 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.62 หลังจากที่ได้ปรับปรุงรายการสินค้าและบริการในบัญชีสินค้าและบริการควบคุมใหม่ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 2 ก.ค.62 และล่าสุด โรงพยาบาลเอกชนได้จัดส่งราคาซื้อขายยามาให้แล้วประมาณ 20 แห่ง
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ขยายระยะเวลาการให้โรงพยาบาลเอกชนติด QR Code ยาแต่ละชนิดไว้ให้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ป่วยตรวจสอบได้ ไปเป็นวันที่ 15 ส.ค.62 จากเดิมกำหนดวันที่ 29 ก.ค.62 โดย QR Code ดังกล่าว กรมฯ จะส่งไปให้โรงพยาบาลแต่ละแห่ง ภายหลังจากที่กรมฯ ได้ราคาซื้อและขายยาแต่ละชนิดจากโรงพยาบาลแล้ว และนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกรมฯ รวมถึงทำเป็น QR Code ส่งมาให้โรงพยาบาล ซึ่ง QR Code ยาแต่ละชนิด จะมีรายละเอียดราคาของทุกโรงพยาบาล ทำให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคายาชนิดเดียวกันที่ขายในโรงพยาบาลทุกแห่งได้
"ราคายาที่โรงพยาบาลเอกชนส่งมาให้ กรมฯ จะถือว่าเป็นราคาซื้อขายที่ผูกมัดโรงพยาบาลว่าจะต้องขายให้กับผู้ป่วยในราคานี้ หากผู้บริโภคเข้าไปใช้บริการแล้วพบว่าคิดแพงกว่านี้ หรือคิดราคาไม่ตรงตามที่แจ้งเอาไว้ โรงพยาบาลจะมีความผิด หรือกรณีที่มีการปรับขึ้นราคา ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงราคามายังกรมฯ ก่อนขึ้นราคาใน 15 วัน แล้วกรมฯ จะนำไปปรับปรุงในบัญชีราคายาที่อยู่ในเว็บไซต์ให้เป็นปัจจุบันต่อไป" นายวิชัยกล่าว
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หากโรงพยาบาลเอกชนไม่ติด QR Code เพื่อแสดงราคาขายยา จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับเป็นรายวันอีกวันละ 2,000 บาท จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง