เบสท์บายเผยเน้นขายเครื่องเล่นและแผ่นดีวีดี "บลูเรย์" มากกว่า "เอชดี"

          เบสท์บาย (Best Buy Co.) ห้างค้าปลีกสินค้าอิเล็คทรอนิคส์รายใหญ่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทจะหันมามุ่งเน้นการวางจำหน่ายเครื่องเล่นดีวีดีและซอฟท์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยีบลูเรย์ (Blu-ray) มากกว่าเครื่องเล่นดีวีดีและซอฟท์แวร์ที่ใช้ฟอร์แมท เอชดี ดีวีดี (HD DVD) ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป
          การให้ไฟเขียวของเบสท์บายในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบให้กับเทคโนโลยีบลูเรย์ โดยจะทำให้อยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า เอชดี ดีวีดี ปัจจุบันเครื่องเล่นและซอฟท์แวร์แบบบลูเรย์ขายได้มากกว่าสองเท่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอัตราการขยายตัวรวดเร็วพอๆกับ เอชดี ดีวีดี 
          ทั้งนี้ เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ อย่าง วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้ประกาศยกเลิกการสนับสนุนฟอร์แมท เอชดี ดีวีดี ของค่ายโตชิบา และตัดสินใจว่าจะหันไปผลิตดีวีดีภาพยนตร์ด้วยเทคโนโลยีบลูเรย์ของบริษัท โซนี่ คอร์ป แทน ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ค่ายหนังระดับโลกต่างก็ประกาศเจตนาหนุนบลูเรย์ ไม่ว่าจะเป็น วอลท์ ดิสนีย์, ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟ็อกซ์ และไลออนส์เกต ขณะที่ทางฝั่ง เอชดี ดีวีดี มีค่ายยูนิเวอร์แซล และพาราเมาท์ ที่ยังให้การสนับสนุนอยู่
          อย่างไรก็ดี เบสท์บายยืนยันว่า แม้จะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์บลูเรย์มากกว่า แต่ทางร้านก็จะยังจำหน่ายอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ที่ใช้ฟอร์แมท เอชดี ดีวีดี ต่อไป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
          สำหรับจุดเด่นจุดด้อยของบลูเรย์ และ เอชดี ดีวีดี นั้น บลูเรย์มีข้อได้เปรียบในด้านความจุ โดยสามารถจุได้ 25 กิ๊กกะไบท์มากกว่า เอชดี ที่มีความจุเพียง 15 กิ๊กเท่านั้น ส่วนราคานั้น เอชดี ได้เปรียบกว่า นอกจากนี้ เอชดียังสามารถใช้เล่นกับเครื่องเล่นดีวีดีแบบเก่าได้ ขณะที่บลูเรย์ไม่สามารถทำได้ กล่าวคือแผ่นดีวีดีที่ใช้เทคโนโลยีบลูเรย์จะเล่นได้กับเครื่องที่รองรับบลูเรย์เท่านั้น 
          ทั้งนี้ หากมองในระยะสั้น โตชิบา ดูเหมือนจะได้เปรียบทั้งในเรื่องของราคาและเครื่องเล่นดีวีดีที่สนับสนุนฟอร์แมท เอชดี แต่ก็ไม่สามารถประมาท บลูเรย์ ในระยะยาวได้