BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 30.60-30.90 จับตาเฟดแถลงนโยบาย มองกนง.ปีนี้ยังไม่ลดดอกเบี้ยแม้มีโอกาส

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 8, 2019 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.60-30.90 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.66 บาทต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระหว่างสัปดาห์เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีอีกครั้ง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 1.02 หมื่นล้านบาท และ 1.30 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญ ด้วยแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด แม้ว่าในช่วงต้นสัปดาห์ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ไร้ทิศทางชัดเจน ส่งผลกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่อง

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า จุดสนใจหลักของตลาดจะอยู่ที่การแถลงนโยบายของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสวันที่ 10-11 ก.ค.62 บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงเงินเฟ้อสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลตลาดแรงงานที่สดใสเกินคาดบ่งชี้ว่ามีโอกาสน้อยลงที่เฟดจะลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมสิ้นเดือนนี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าหากรัฐสภายุโรปอนุมัติการเสนอชื่อนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เป็นประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คนใหม่ตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป นางลาการ์ด จะคงท่าทีนโยบายแบบผ่อนคลายของ ECB ต่อไป โดยการที่ผู้มีความเห็นสายเหยี่ยวอย่างนายเจนส์ วีดด์แมน ประธานธนาคารกลางเยอรมนี ไม่ได้มารับตำแหน่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของหลายประเทศในเขตยูโรโซนทำสถิติต่ำสุดใหม่ ขณะที่การสานต่อนโยบายการเงินสายพิราบอาจจำกัดการฟื้นตัวของเงินยูโรในระยะถัดไป

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจีดีพีในไตรมาส 2/2562 อาจขยายตัวต่ำกว่า 3% แต่ในครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตได้ 3-4% จากภาคส่งออกและท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำของปี 2561 ส่วนการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไม่ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ 3.3% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่ได้ย่ำแย่ อย่างไรก็ดี กนง.ยังไม่ปิดช่องในการลดดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำ

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนในช่วงครึ่งปีหลัง มีทิศทางแผ่วลงและการส่งออกที่ชะลอตัว ส่งผลต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรวมถึงการลงทุนภาคเอกชน

"เราประเมินว่า กนง.จะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ตลอดปีนี้ เพื่อเก็บกระสุนไว้สำหรับกรณีเศรษฐกิจซบเซามากกว่าที่คาด อนึ่ง แม้โอกาสที่ กนง.จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มมีมากขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ใช่กรณีฐานของเรา" กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ