ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.77/78 อ่อนค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อยหลังดอลล์แข็ง-ตลาดเชื่อเฟดไม่ลดดอกเบี้ยถึง 0.50% คาดกรอบพรุ่งนี้ 30.70-30.85

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 8, 2019 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.77/78 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.73/77 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันเงินบาทอ่อนค่าไปทำ high สุดที่ระดับ 30.80 บาท/ดอลลาร์ แล้ว ค่อยๆ ปรับแข็งค่าขึ้นมาในช่วงท้ายตลาด ซึ่งการที่เงินบาทในระยะสั้นปรับอ่อนค่าเป็นผลมาจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ. ย.ของสหรัฐฯ ออกมาดี จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แต่ทิศทางของเงินบาทยังมีแนวโน้มจะแข็งค่าได้อีก

"ระยะสั้นบาทอ่อนค่าลง เป็นเพราะตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาดี คนจึงมองว่าที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมปลาย เดือนนี้ คงจะลดไม่ถึง 0.50% และมองว่า trend ของเงินบาทมีโอกาสมากกว่าที่จะแข็งค่า" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.70 - 30.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.45/50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.46 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1227/1230 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1230 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,731.03 จุด ลดลง 0.20 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 57,309 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 597.23 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารโลก (World Bank) เปิดตัวรายงานตามติดเศรษฐกิจไทยฉบับล่าสุด โดยระบุว่า ช่วงต้นปี 2562 เศรษฐกิจไทย
เริ่มเติบโตช้าลงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวลง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะชะลอการเติบโตลงมาอยู่ที่ 3.5% จากปีก่อนที่
เติบโต 4.1% ขณะที่คาดว่าปีนี้การส่งออกจะเติบโตได้ 2.2% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.1% พร้อมคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2563 และ
2564 ว่าจะเติบโตได้ 3.6% และ 3.7% ตามลำดับ
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.60-30.90 บาท/ดอลลาร์ โดยนัก
ลงทุนให้ความสนใจกับการแถลงนโยบายของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 10-11 ก.ค.นี้, บันทึกการประ
ชุมเฟด รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลตลาดแรงงานออกมาสดใสเกินคาด บ่งชี้ว่ามีโอกาสน้อยที่เฟดจะลดดอกเบี้ยถึง
0.50% ในการประชุมสิ้นเดือนนี้
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-
ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 42.2 จุด (ต่ำกว่าค่ากลางดัชนีที่ 50.0 จุด) ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งมีค่าดัชนี
อยู่ที่ 50.4 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการฯ ที่ลดลงจากความไม่มั่นใจต่อทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของ
ประเทศไทยในปัจจุบัน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ยังรอความชัดเจนในเชิงนโยบาย ที่จะมีผลธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ใน
ภาพรวมจากรัฐบาลชุดใหม่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ
  • ดีลอยท์ บริษัทให้คำปรึกษาด้านการเงิน เปิดเผยผลสำรวจ พบว่าบริษัทในอังกฤษ มีแผนที่จะปรับลดการลงทุนและการจ้าง
งาน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยความกังวลดังกล่าวเพิ่มสูงเป็น
ประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่มีการทำประชามติ Brexit เมื่อปี 2559
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นร่วงลง 15.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็น
รายปี แตะที่ 1.59 ล้านล้านเยน (1.465 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากมียอดส่งออกไปจีนลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากข้อพิพาทการค้า
ระหว่างจีนและสหรัฐ
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คงมุมมองการประเมินเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคว่ายังมีแนวโน้มขยายตัวหรือฟื้นตัวขึ้น ในขณะ
เดียวกันก็เตือนว่ามีบริษัทจำนวนมากที่กำลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
  • สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ มีแนวโน้มว่า จะขยายตัว
เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายปี
  • ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังคงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง โดยปธน.ทรัม
ป์ ได้เรียกร้องมาหลายครั้งให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้สหรัฐสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ซึ่งกำลังลดค่าเงิน แต่นายเจอโรมยังคงไม่
ปฏิบัติตาม
  • ตลาดการเงินจับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดย

นักลงทุนหวังจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาดใน

เดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ