นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการโครงการเอสเอ็มอี โปร-แอคทีฟ ครั้งที่ 2/62 โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เข้าร่วม ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่ขอรับการสนับสนุนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ตั้งแต่ส.ค. - พ.ย.62 รวมทั้งสิ้น 76 งาน จำนวนผู้ประกอบการ 196 ราย วงเงินสนับสนุน 35.47 ล้านบาท โดยเป็นการสนับสนุนกิจกรรมในตลาดใหม่ 26.69 ล้านบาท จำนวน 51 งาน ผู้ประกอบการ 151 ราย และกิจกรรมในตลาดหลัก 8.78 ล้านบาท ใน 25 งาน ผู้ประกอบการ 45 ราย
"ผู้ประกอบการที่ขอรับการสนับสนุนจากโครงการ ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและไลฟ์สไตล์ และตลาดที่ขอรับการสนับสนุนสูงสุด คือ เอเชียตะวันออก โดยมีจีนเป็นตลาดเนื้อหอมที่ผู้ประกอบการต้องการไปเข้าร่วมงานมากที่สุด ตามมาด้วยยุโรปตะวันตก และอาเซียน" รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุ
สำหรับงานที่ผู้ประกอบการ SMEs สนใจขอรับการสนับสนุนในตลาดหลัก คือ งาน MAISON & OBJET 2019 ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นงานระดับโลกด้านสินค้าไลฟ์สไตล์และของตกแต่งบ้าน มีผู้ซื้อจากทั่วโลกเข้าชมงานกว่า 80,000 คน มีบริษัทเข้าร่วมงานจาก 72 ประเทศ ส่วนงานในตลาดใหม่นั้นส่วนใหญ่เป็นงานแสดงสินค้า เช่น งานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติของจีน ซึ่งมีผู้เข้าชมงานตั้งแต่ 30,000 คน จนถึงหลัก 1 แสนคน รวมถึงงาน SIAL Interfood ASEAN 2019 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ มีผู้เข้าชมงานกว่า 70,000 คน
นางวรรณภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการระยะที่ 3 (ปีงบประมาณ 62-64) กรมฯ ได้อนุมัติช่วยเหลือ SMEs เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศไปแล้วกว่า 1,000 ราย เพื่อให้สามารถก้าวสู่ตลาดโลก และแข่งขันได้อย่างเข้มแข็ง โดยให้วงเงินสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาท/ครั้ง จำนวน 6 ครั้ง ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ทั้งค่าพื้นที่ ค่าคูหา ค่าประกันภัยในงาน ค่าตกแต่ง ค่าไฟฟ้า ค่าดูแลสิ่งแวดล้อม ค่าประชาสัมพันธ์และค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เป็นต้น