นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการด้านกฎเกณฑ์ทางการค้าภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตัวแทนประเทศไทยได้หยิบยกประเด็นสำคัญและแสดงความกังวลต่อคณะกรรมการว่าด้วยมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Committee on Anti-dumping Practices) เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) ของสหรัฐฯ กับสินค้าบางรายการของไทย ซึ่งสหรัฐฯ ได้นำแนวทาง Particular Market Situation (PMS) มาใช้ในการพิจารณาว่าตลาดสินค้าในประเทศไทยมีสถานการณ์เฉพาะ ทำให้ไม่สามารถนำราคาขายในประเทศของผู้ส่งออกไทยมาใช้ในการคำนวณส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาดได้ และได้ทำการปรับรายการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยไม่ได้ใช้ข้อมูลที่ผู้ส่งออกไทยเสนอตามความเป็นจริง ส่งผลให้อัตราส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาดของผู้ส่งออกไทยสูงกว่าที่ควรจะเป็น
"ผู้แทนของไทยได้แสดงความเห็นต่อที่ประชุมว่า แนวทางปฏิบัติในการใช้แนวทาง PMS ของสหรัฐฯ ไม่สอดคล้องกับหลักการของ WTO ซึ่งกำหนดให้ต้องใช้ PMS เท่าที่จำเป็นและสมเหตุสมผล และต้องมีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอว่า ไม่สามารถใช้ราคาขายในประเทศของผู้ส่งออกมาใช้ในการคำนวณได้"
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ดำเนินการไต่สวนสินค้าจากไทยนั้น สหรัฐฯ ไม่ได้แสดงเหตุผลและหลักฐานที่สมเหตุสมผล และไม่สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping Agreement: ADA) ผู้แทนของไทยจึงขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปฏิบัติให้สอดคล้องกับความตกลง ADA พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกนำประเด็น PMS ขึ้นมาหารืออย่างเป็นรูปธรรมและสร้างแนวทางที่ถูกต้องร่วมกัน เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศสมาชิกต่างๆ จะใช้แนวทาง PMS เท่าที่จำเป็นด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง
นายอดุลย์กล่าว เพิ่มเติมว่า การส่งผู้แทนของกรมการค้าต่างประเทศเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแนวทางในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยใช้เวที WTO ในการผลักดันให้แนวทางการไต่สวนการทุ่มตลาดของสหรัฐฯ รวมถึงประเทศสมาชิกอื่นๆ เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการและเจตนารมณ์ของความตกลงว่าด้วยการตอบโต้การทุ่มตลาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ส่งออกไทยต่อไปในอนาคต