น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า การฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะต้องใช้ทั้งมาตรการเงินและการคลังควบคู่กันไป แต่จะต้องไม่สร้างปัญหาด้านวินัยการเงินการคลังของประเทศ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจในปี 51 เติบโตได้สูงถึง 5.5-6.0% ซึ่งมากกว่ากว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ในระดับ 4.8-5.0%
จากการหารือเป็นครั้งแรกร่วมกับหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจทั้ง 4 หน่วยงานกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงบประมาณ และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ในช่วงบ่ายวันนี้มีความเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว หากสามารถฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้
หน่วยงานทั้งหมดมีความเห็นตรงกันว่า นโยบายการคลังและการเงินยังต้องใช้ควบคู่กันไป และจะมีแนวทางอย่างไรให้นโยบายการเงินช่วยให้เกิดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่พื้นฐานมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยจะเห็นได้จากที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม หรือปัญหาราคาน้ำมันมากนัก แต่นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะเป็นผู้ตัดสินใจ
"วันนี้เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องกันเบื้องต้นว่าในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการลงรายละเอียดกันมากกว่านี้"น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่ได้หารือในรายละเอียด
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--