พาณิชย์ เผยการเจรจาว่าด้วยกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและความตกลง RCEP ได้ข้อยุติแล้ว มั่นใจช่วยเพิ่มความคล่องตัวการค้าไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 15, 2019 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาว่าด้วยกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและระเบียบปฏิบัติการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งการเจรจารอบล่าสุดเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค.62 โดยประเทศสมาชิกสามารถหาข้อสรุปร่วมกันในประเด็นการพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้า (Proof of Origin) ซึ่งเป็นประเด็นข้อขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิกมาอย่างยาวนานได้

สำหรับความชัดเจนของร่างข้อบทว่าด้วยกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและระเบียบปฏิบัติการรรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าจะสนับสนุนให้การเปิดเสรีการค้าสินค้าภายใต้ความตกลง RCEP เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตัวอย่างเช่น ข้อบทว่าด้วยความลับ ซึ่งเป็นข้อบทที่รับประกันได้ว่าข้อมูลทางการค้าที่ได้รับจากภาคเอกชนจะต้องนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และเปิดเผยอย่างจำกัดเท่านั้น หรือ การอนุญาตให้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้วิธีการคำนวณทางตรงหรือวิธีการคำนวณทางอ้อม ย่อมเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศผู้ส่งออกเลือกได้ว่าวิธีการคำนวณแบบใดสอดคล้องกับรูปแบบการค้า และความต้องการของผู้ประกอบการของตน แทนที่จะถูกจำกัดให้ต้องเลือกวิธีการคำนวณแบบใดแบบหนึ่ง เป็นต้น

"การเจรจาจัดทำกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและระเบียบปฏิบัติการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเจรจา แม้ว่ายังมีประเด็นที่ต้องหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกหลายประเด็น หากแต่การบรรลุข้อตกลงร่วมกันในประเด็นรูปแบบของการพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าในการประชุมรอบนี้ เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยไขปัญหาและสนับสนุนการเจรจาหาข้อสรุปในประเด็นที่เกี่ยวข้อง กรมการค้าต่างประเทศมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันการเจรจาจัดทำกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและระเบียบปฏิบัติการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการไทยและบรรลุข้อตกลงตามเป้าหมายเวลาที่ผู้นำประกาศไว้ในวาระการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2562" นายอดุลย์ กล่าว

ทั้งนี้ สมาชิก RCEP ประกอบด้วยอาเซียน ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี และนิวซีแลนด์ รวม 16 ประเทศ ได้บรรลุข้อตกลงที่จะใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกที่ได้รับการรับรอง (Self Certification by Approved Exporter) หรือการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกหรือผู้ผลิต (Self Certification by Exporter or Producer) สำหรับเป็นเอกสารในการพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าต่อศุลกากรประเทศผู้นำเข้า เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ความตกลง RCEP

"การที่ประเทศสมาชิกอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกรูปแบบการพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าจากรูปแบบที่ระบุไว้ข้างต้น ย่อมช่วยยกระดับการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคธุรกิจ โดยสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสม มิได้ถูกจำกัดว่าต้องใช้รูปแบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าใดเป็นการเฉพาะ ซึ่งจะทำให้การค้าขายในประเทศสมาชิก RCEP มีความคล่องตัว และทำให้การค้าขยายตัวได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการค้าของไทยกับสมาชิก RCEP" นายอดุลย์ กล่าว

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า นอกจากประเด็นการพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าแล้ว ที่ประชุมยังบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมอีก 3 มาตรา คือ (1) การคำนวณสัดส่วนวัตถุดิบภายในภูมิภาค (Regional Value Content: RVC) ซึ่งอนุญาตให้เลือกได้ว่าจะใช้วิธีการคำนวณทางตรง (Direct Method) หรือวิธีการคำนวณทางอ้อม (Indirect Method) (2) ความลับ ซึ่งกำหนดพันธะหน้าที่ของประเทศสมาชิกในการรักษาความลับ กล่าวคือ เมื่อประเทศสมาชิกได้รับข้อมูลใดๆ จากประเทศสมาชิกอื่นๆ ซึ่งมีการระบุว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ ประเทศสมาชิกที่รับข้อมูลจะต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับโดยให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบภายในของตน และ (3) แนวทางการบริหารจัดการสินค้าหรือวัตถุดิบที่เหมือนกันจนไม่สามารถจำแนกได้และสามารถใช้แทนกันได้โดยสมบูรณ์ กล่าวคือ หากมีการนำสินค้าหรือวัตถุดิบที่เข้าข่ายข้างต้นมาผสมกันระหว่างสินค้าหรือวัตถุดิบที่มีคุณสมบัติถิ่นกำเนิดสินค้าและขาดคุณสมบัติถิ่นกำเนิดสินค้า อนุญาตให้ใช้วิธีการบริหารสินค้าคงคลังตามหลักการทางบัญชีที่ได้รับการยอมรับในประเทศสำหรับจำแนกระหว่างสินค้าหรือวัตถุดิบที่มีคุณสมบัติถิ่นกำเนิดสินค้าและขาดคุณสมบัติถิ่นกำเนิดสินค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ