พาณิชย์เผยผลประชุม SEOM กับจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เร่งยกระดับความตกลง FTA ส่งเสริมความร่วมมือทางศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 18, 2019 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจของอาเซียน (SEOM) กับประเทศคู่เจรจาในเอเชียตะวันออก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ณ กรุงเทพฯ โดยมีประเด็นหารือสำคัญคือ การติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามพันธกรณีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่อาเซียนทำกับ 3 ประเทศ นับตั้งแต่มีผลใช้บังคับ ได้แก่ FTA อาเซียน-จีน มีผลใช้บังคับปี 2548, FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น มีผลใช้บังคับปี 2552 และ FTA อาเซียน-เกาหลี มีผลใช้บังคับปี 2553 เป็นต้น โดยได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเสรีเพิ่มเติมในสินค้าที่ยังคงมีภาษีระหว่างกัน

นางอรมน กล่าวว่า ในส่วนของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน-จีน ที่ประชุมได้ขอให้สมาชิกให้เร่งบังคับใช้รายการกฎถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับใหม่ (Revised PSRs) ในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 รวมทั้งได้แสดงความพร้อมที่จะเริ่มหารือแนวทางการเปิดเสรีเพิ่มเติมจากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA-JC) ปัจจุบัน เพื่อยกระดับความตกลงฯ รวมทั้งหารือเรื่องการดำเนินความร่วมมืออื่นๆ ที่สำคัญกับการค้ายุคปัจจุบัน เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การลดข้อกีดกันทางการค้าที่เกิดจากมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการและการขจัด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การค้าในภูมิภาคเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ตลอดจนอาเซียนได้ขอให้จีนเร่งพิจารณาสนับสนุนโครงการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลของอาเซียน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และโครงการสร้างความตระหนักของผู้ประกอบการ เพื่อใช้ประโยชน์เรื่องแหล่งกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้าที่ปรับปรุง โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีนได้อย่างเต็มที่

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันให้พิธีสารที่แก้ไขความตกลง FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น ฉบับที่ 1 ที่เพิ่มเรื่องการเปิดเสรีการค้าบริการ การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และการลงทุนเข้ากับความตกลงเดิมที่เน้นการค้าสินค้า มีผลบังคับใช้โดยเร็วในสิ้นปีนี้

ซึ่งความตกลงฉบับปรับปรุงใหม่นี้ ญี่ปุ่นได้เปิดให้นักลงทุนอาเซียนเข้าไปลงทุนจัดตั้งธุรกิจ ถือหุ้นได้ถึง 100% ในสาขาต่างๆ อาทิ บริการร้านอาหาร บริการสปา บริการโรงแรม บริการทัวร์และไกด์ บริการจัดประชุม บริการจัดเลี้ยง บริการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ บริการโฆษณา บริการด้านการวิจัยและการพัฒนา และบริการอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น จึงเป็นโอกาสดีของนักลงทุนไทยที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาบริการดังกล่าว สามารถเข้าไปลงทุนได้อย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้เสนอที่จะช่วยอาเซียนเตรียมพร้อมรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น อินเตอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่ง (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบล็อกเชน (Blockchain) รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้เสนอให้จัดตั้งกลไกหารือด้านอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) กับอาเซียนด้วย

นางอรมน กล่าวต่อว่า ในส่วนของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน-เกาหลี เนื่องจากปีนี้เป็นโอกาสพิเศษครบรอบความสัมพันธ์อาเซียน-เกาหลี 30 ปี ซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEAN-Korea Commemorative Summit ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ณ เมืองปูซาน พร้อมจัดกิจกรรมคู่ขนาน ASEAN-Korea Business Forum ด้วย

ในการประชุมครั้งนี้ อาเซียนและเกาหลีใต้ได้เน้นย้ำความตั้งใจที่จะขยายการค้าให้บรรลุเป้าหมาย 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2563 ผ่านการดำเนินการต่างๆ เช่น การเปิดตลาดเพิ่มเติม การยกระดับเทคโนโลยี สร้างมาตรฐาน พัฒนานวัตกรรม ส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนของ Startups เพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปี 2560 มูลค่าการค้ารวมระหว่างอาเซียน-จีน อยู่ที่ 441.01 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยอาเซียนส่งออกไปจีน 186.47 พันล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีน 254.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจีนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของอาเซียน ในขณะที่มูลค่าการค้ารวมระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น เป็น 219.26 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยอาเซียนส่งออกไปญี่ปุ่น 105.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากญี่ปุ่น มูลค่า 113.47 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของอาเซียน สำหรับมูลค่าการค้ารวมระหว่างอาเซียน-เกาหลีใต้ เป็น 153.68 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยอาเซียนส่งออกไปเกาหลีใต้ 55.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากเกาหลีใต้ 98.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ของอาเซียน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ