นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เดินทางเข้าสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพลังงาน เมื่อเวลา 15.39 น. ก่อนเข้าร่วมประชุมร่วมกับข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในสังกัด พร้อมกับระบุว่าการดำเนินงานของกระทรวงยังมีหลายอย่างที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องการให้ทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ ปี 2561-2580 (PDP2018) ใหม่นั้น คงต้องรับฟังความเห็นจากผู้บริหารกระทรวงก่อน เพราะเชื่อว่าการดำเนินการใด ๆ ทุกฝ่ายได้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงมีทางออกในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว
สำหรับการดูแลราคาปาล์มน้ำมัน จะสานต่อนโยบายของนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานคนก่อน โดยจะยังคงดำเนินการต่อเนื่องในเรื่องการนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง มีเป้าหมายที่จะช่วยดูดซับผลผลิตปาล์มน้ำมัน เพื่อดูแลสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จึงจะยังคงสนับสนุนการใช้น้ำมัน B10 ซึ่งมีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) ในน้ำมันดีเซล 10% เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานในอนาคต เพราะจะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้มาก
ส่วนการใช้ B20 ก็จะยังต้องดำเนินต่อไป เพราะหาก B10 ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้ไม่เพียงพอในช่วงผลผลิตที่ออกมามาก การใช้ B20 ก็จะมีส่วนช่วยดูดซับได้มากขึ้น แต่ในส่วนของการขยายเวลาการให้ส่วนลดราคา B20 ต่ำกว่า B7 ในอัตรา 5 บาท/ลิตร ที่จะหมดเวลาในวันที่ 31 ก.ค.หรือไม่นั้น คงต้องพิจารณาข้อมูลอีกครั้ง
ด้านการชดเชยราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน ที่ปัจจุบันยังตรึงราคาขายปลีกไว้ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม นั้นจะมีการทบทวนมาตรการด้านราคาหรือไม่ ก็ยังเป็นเรื่องที่จะต้องไปดูรายละเอียดโครงสร้างราคาให้เกิดความชัดเจนด้วย ซึ่งทุกเรื่องจะมีคำตอบเร็ว ๆ นี้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานในกระทรวงพลังงานมีความตั้งใจบริหารจัดการเรื่องพลังงานของประเทศให้เกิดความยั่งยืน มุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ตกถึงประชาชน และมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตอบโจทย์การดูแลที่เป็นปัจจัยพื้นฐานคุณภาพชีวิต และเข้าสู่กลไกการดูแลของประเทศได้ โดยจะดูแลราคาพลังงานทุกประเภทให้สามารถลดภาระประชาชนได้ทั้งไฟฟ้า และน้ำมัน แม้ว่าจะมีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายด้านก็ตาม รวมถึงจะดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังไม่แข็งแรงด้วย เพื่อให้พลังงานมีส่วนเข้าไปช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้มองว่ากระทรวงพลังงานเป็นขุมทรัพย์ประโยชน์ แต่กระทรวงพลังงานเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก และเรื่องของผลประโยชน์ต่าง ๆ ก็จะต้องได้รับกลไกการดูแล เป็นกระทรวงที่โปร่งใส ตรวจสอบได้