นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เผยว่า ระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค.ที่ผ่านมา SME D Bank ร่วมกับ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) นำคณะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยหน้าใหม่ที่มีศักยภาพโดดเด่นในกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม กระเป๋าและเครื่องประดับจำนวน 10 ราย ที่ผ่านการคัดเลือกโครงการ Thai Designer to Global 2019 ซึ่งเป็นโครงการยกระดับพัฒนาผู้ประกอบการไทยสู่สากล ร่วมออกบูธแสดงสินค้าในโซน Thai Designer to Global 2019 Pavilion ภายในงาน HKTDC HK Fashion Week Spring/Summer 2019 ซึ่งเป็นมหกรรมแสดงสินค้าในกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม กระเป๋าและเครื่องประดับ ยิ่งใหญ่ระดับโลก ณ Hong Kong Convention and Exhibition Centre เขตปกครองพิเศษฮ่องกง
เนื่องจากธนาคารฯ เล็งเห็นว่า กลุ่มธุรกิจแฟชั่นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการแทบทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี อีกทั้งเป็นประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยมีพื้นฐานความสามารถสูงอยู่แล้ว หากสามารถส่งเสริมให้ขยายตลาดส่งออกต่างประเทศได้จะก่อประโยชน์อย่างสูง เชื่อมโยงไปสู่ผู้ประกอบรายเล็กๆ อีกมากมาย ดังนั้นธนาคารฯ จึงมีกระบวนการพัฒนาผู้ประกอบการ ยกระดับ และเพิ่มช่องทางตลาดให้ผู้ประกอบการไทยไปสู่สากล
นายพงชาญ กล่าวว่า สินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยได้รับความสนใจจากผู้ซื้อนานาชาติอย่างสูง เนื่องจากจุดเด่นมีความคิดสร้างสรรค์ ฝีมือและเอกลักษณ์โดดเด่น ทันสมัย รวมถึงบ่งบอกอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างดี ที่สำคัญการผลิตได้มาตรฐานระดับสากล โดยมีผู้ซื้อจากนานาประเทศเข้าเยี่ยมชมสินค้าในโซน Thai Designer to Global 2019 Pavilion อย่างคึกคัก รวมกว่า 1,134 ราย ประกอบด้วย VIP Buyer Guide Tour จาก 8 ประเทศ เช่น เวียดนาม สหรัฐอเมริกา คาซัคสถาน อินโดนิเชีย อิตาลี ออสเตรเลีย จีน และประเทศไทย จำนวนกว่า 100 ราย ผู้ซื้อ (Buyer) และผู้ชมงานทั่วไป จำนวน 1,034 ราย เกิดการจับคู่เจรจาทางธุรกิจ 45 ราย มีการตกลงซื้อขายทันทีในงานมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และคาดจะเกิดมูลค่าการเจรจาซื้อขายหลังจบงานในระยะเวลา 1 ปี อีกไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการแฟชั่นที่ได้รับคำสั่งซื้อ และต้องการเงินทุนเพิ่มเพื่อใช้หมุนเวียนผลิตสินค้า หรือขยายธุรกิจ ธนาคารฯ ได้จัดเตรียมเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับ เช่น สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนนานถึงสูงสุด 7 ปี บุคคลธรรมดา 3 ปีแรกเพียง 0.42% ต่อเดือน ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี และหากเป็นนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยจะถูกลงไปอีก 3 ปีแรกเพียง 0.25% ต่อเดือน ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี เป็นต้น
นายพงชาญ กล่าวว่า นอกเหนือจากมูลค่าของการซื้อขายและมีคู่ค้าเพิ่มขึ้นจากการเจรจาธุรกิจแล้ว ผู้ประกอบการที่ได้รับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ยังได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเปิดตลาด เรียนรู้ความต้องการของลูกค้า และเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ จากทั่วโลก อีกทั้ง ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งจะเป็นแนวทางเพื่อพัฒนาสินค้า หรือกลยุทธ์ในการทำการตลาดต่างประเทศต่อไป
สำหรับ 10 ผู้ประกอบการแฟชั่นไทยที่ได้รับโอกาสร่วมงาน HKTDC HK Fashion Week Spring/Summer 2019 ได้แก่
1.บจก.บุญอริยะ อิมปอร์ต แอนด์ เอ็กซ์ปอร์ต ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ของที่ระลึกงานหัตถกรรมผ้าทอผสมหนัง แบรนด์ ZC acherie
2.บจก.เบสท์ บัทเทินส์ (ไทยแลนด์) ผลิตภัณฑ์หมวกที่พกเก็บสะดวกในกระเป๋าถือ แบรนด์ ATIPA
3.บจก.นิชพี ชุดเจ้าสาวหรูหรา มีสไตล์เรียบง่าย น้อยแต่มาก แบรนด์ NICHP
4.ธุรกิจขาย เช่าชุดราตรี เครื่องประดับ ตัดเย็บด้วยช่างฝีมือคุณภาพ แบรนด์ ORAPIM
5.บจก.สมิทธี จิวเวลรี่ นำศาสตร์แห่งศิลปะ ผสานเข้ากับวิทยาศาสตร์ กลายเป็นมิติใหม่แห่งเครื่องประดับ แบรนด์ PONK SMITHI
6.บจก.พรทิพย์ สปอร์ตแวร์ CAPThai ผู้ผลิตหมวกทุกชนิด โดยเฉพาะหมวกกัน UV เหมาะแก่การใช้งาน
7.บจก.มาเจสทิค ไนน์ ผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาสุดเท่ แบรนด์ spandex
8.หจก.อนุโรจน์แฮนด์เพนท์ เสื้อผ้าโดดเด่นด้วยลายเขียนมือ แบรนด์ Anuroj
9.เสื้อผ้ามัดย่อมด้วยสีธรรมชาติ มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย แบรนด์ HOMRAK
และ 10.บจก.โรงงานสมิทธิ์การ์เมนท์ เสื้อผ้าสีสดใส สวมใส่ได้ทุกวัย ทันสมัยอยู่เสมอ แบรนด์ SAA-MU