นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 3% เนื่องจากมองว่าปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ลดลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) ตลอดจนการส่งออกของไทยที่เริ่มเห็นทิศทางดีขึ้น และคาดว่าจะติดลบน้อยลงในระยะถัดไป โดยเชื่อว่าหากมูลค่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ทำได้มากกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ก็จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้มากกว่า 3%
สำหรับการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้นั้น นายปรีดี เชื่อว่า รัฐบาลทราบดีว่าเรื่องใดควรจัดลำดับความสำคัญก่อนหรือหลัง ซึ่งจากนโยบายที่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลได้หาเสียงไว้นั้นคงต้องมีการชั่งน้ำหนักความเร่งด่วน ความสำคัญ รวมถึงพิจารณาให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือ ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล เพื่อให้การบริหารประเทศและการจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาของประชาชนสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
ประธานสมาคมธนาคารไทย ยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการเห็นจากรัฐบาลชุดใหม่ คือ นอกจากการรักษาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพแล้ว ขอให้ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้มีความผันผวน และดูแลอัตราดอกเบี้ยในระดับที่เหมาะสมเพื่อรักษาการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาคเอกชนที่คาดหวัง แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องการเห็นรัฐบาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดำเนินนโยบายให้มีความต่อเนื่อง