นายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงผลการดำเนินงานและมอบวุฒิบัตรกับตัวแทนผู้สำเร็จการฝึกอบรมและเกียรติบัตรแก่ตัวแทนวิทยากรฝึกอบรมภายใต้โครงการพัฒนาผู้ขับขี่รถบรรทุกเพื่อการประหยัดพลังงานในธุรกิจการขนส่งสินค้า ว่า ภาคการขนส่งมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และเป็นส่วนที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 40% ของการใช้พลังงานทั้งหมด
ดังนั้น พพ.ได้มุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดรับตามแผนอนุรักษ์พลังงานที่รับผิดชอบการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งโดยเฉพาะ พพ.จึงได้บูรณาการร่วมมือกับกรมขนส่งทางบก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสมาคมสหพันธ์การขนส่งทางบกไทย ในการฝึกอบรมพัฒนาผู้ขับขี่รถบรรทุกขนส่งสินค้าเพื่อยกระดับให้เป็นผู้ขับขี่ที่มีคุณภาพตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่และประหยัดพลังงานไปพร้อมกันซึ่งจากการดำเนินงานมาตั้งแต่ตุลาคม 2561 ทำให้บรรลุความสำเร็จในการฝึกอบรมวิทยากรให้มีความเชี่ยวชาญในการอบรมประหยัดพลังงาน 83 คน ฝึกอบรมผู้ขับขี่รถบรรทุกจำนวน 5,017 คน ส่งผลให้เกิดศักยภาพการประหยัดพลังงาน คิดเป็นปริมาณน้ำมันดีเซลประมาณ 12.37 ล้านลิตร/ปี ประหยัดเงินกว่า 370 ล้านบาท/ปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 66 ล้านกิโลกรัม/ปี
"โครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่การฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญและถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกให้มีทักษะการขับขี่ประหยัดพลังงาน ช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานภาคขนส่ง หนุนให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจขนส่งสินค้าลดต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างตรงจุดและยั่งยืนซึ่งถือว่าบรรลุผลสำเร็จตามที่วางเป้าหมายไว้ โดยพบว่าผู้ที่ผ่านการอบรมสามารถประหยัดพลังงานในการขับขี่ได้ถึง 15-25% รวมถึงทำให้เกิดทักษะ ด้านอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย เช่น เทคนิคการบำรุงรักษา ทักษะความปลอดภัยบนถนน เป็นต้น" นายยงยุทธกล่าว
สำหรับการดำเนินงาน เพื่อการพัฒนาผู้ขับขี่รถบรรทุกให้มีทักษะที่ดีในการขับรถให้เกิดการประหยัดพลังงานในรถบรรทุก 5 ประเภท ได้แก่ รถบรรทุก 6 ล้อ รถบรรทุก 10 ล้อ รถบรรทุกลากจูง รถบรรทุกห้องเย็น และรถบรรทุกวัตถุอันตราย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาบุคลากรที่จะเป็นวิทยากรสอนขับรถแบบประหยัดพลังงานอีกด้วยซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับคุณภาพบุคลากรด้านขนส่ง กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุก กลุ่มผู้กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานด้านการขับขี่รถยนต์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งาน หรือเข้าสู่อาชีพพนักงานขับรถเป็นอย่างดี
นายยงยุทธ กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า แนวทางดำเนินการต่อไป พพ.จะร่วมมือกับ 3 หน่วยงานพันธมิตรในการขยายผลการฝึกอบรมผู้ขับขี่รถบรรทุกเพิ่มเติม รวมถึงการผลักดันให้มีการนำหลักสูตรดังกล่าวไปกำหนดเป็นแนวทางการพัฒนาด้านวิชาชีพที่ทำให้เป็นที่ยอมรับ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภาคขนส่งต้องคำนึงถึงมาตรฐานการประหยัดพลังงานควบคู่ไปกับความปลอดภัยในการประกอบธุรกิจต่อไป