ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศจะขยายตัว 4.5% ชะลอลงจากที่ขยายตัว 5.7% ในปี 2561 เนื่องจากการเบิกใช้สินเชื่อในช่วงครึ่งปีแรกยังฟื้นตัวไม่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อภาคธุรกิจ สำหรับสินเชื่อรายย่อยที่เติบโตดีในช่วงครึ่งแรกของปีนั้น คาดว่า คงชะลอลงในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัจจัยพิเศษที่สนับสนุนการเร่งตัวของสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทยอยลดลง อย่างไรก็ดี การเติบโตในอัตราที่ชะลอลงของสินเชื่อดังกล่าว ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับข้อจำกัดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้
ทั้งนี้ จากสรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 โดยพบว่า แรงหนุนจากสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อรายย่อยหลายประเภทชะลอลงต่อเนื่องในเดือน มิ.ย.62 ส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเพียง 1.07 หมื่นล้านบาท หรือ 0.09% นำโดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่บางแห่งที่มีพอร์ตสินเชื่อขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและกระจายทุกกลุ่มลูกค้า
อย่างไรก็ดี พอร์ตสินเชื่อของธนาคารหลายส่วน ยังคงถูกฉุดด้วยสินเชื่อภาคธุรกิจและเอสเอ็มอี จากผลกระทบของภาคการส่งออกและความเสี่ยงต่อเครดิตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี โดยเฉพาะขนาดเล็ก สำหรับสินเชื่อรายย่อยแม้จะยังเป็นบวก แต่ก็เป็นอัตราที่ชะลอลงตามคาด หลังมีการเร่งขยายสินเชื่อรายย่อยตัวหลักๆ ไปมากแล้วในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สินเชื่อสุทธิในเดือน มิ.ย.62 ขยายตัวในอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบประมาณ 1 ปีครึ่ง ที่ระดับ 3.88% เนื่องจากการเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ดี ยอดคงค้างสินเชื่อสุทธิ ยังคงขยับสูงขึ้นได้ เมื่อเทียบกับระดับสิ้นปีก่อน มาที่ใกล้ๆ 1.0%
ด้านเงินฝากในเดือน มิ.ย.62 ปรับลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนอีก 6.2 หมื่นล้านบาท หรือ -0.49% โดยเป็นผลจากการครบกำหนดของเงินฝากพิเศษที่มีดอกเบี้ยสูงในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่บางแห่ง ประกอบกับธนาคารแห่งอื่นๆ น่าจะบริหารภาพรวมทิศทางเงินฝากให้สอดคล้องกับขนาดของการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจากภาพดังกล่าวทำให้อัตราการเติบโตของเงินฝากโดยรวมในเดือน มิ.ย.62 ชะลอลงมาที่ 3.0% ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 ปี นับตั้งแต่เดือนพ.ค.60
สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่รวมเงินกู้ยืม (Loan to Deposit+Borrowing) ณ มิ.ย.62 ขยับขึ้นสู่ระดับ 92.60% จากระดับ 92.36% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งน่าจะสะท้อนการบริหารจัดการความสามารถในการทำกำไร และดูแลประเด็นด้านต้นทุน ท่ามกลางการระดมสภาพคล่องผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งเงินฝากและการออกหุ้นกู้ เพื่อทำให้สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่รวมเงินกู้ยืม ยังคงอยู่ที่ระดับไม่สูงไปกว่าระดับ ณ สิ้นปี 2561 ที่ 92.71%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ธนาคารพาณิชย์น่าจะบริหารจัดการช่วงเวลาการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากให้มีเทอม และรูปแบบที่เหมาะสมกับแรงส่งการฟื้นตัวของสินเชื่อ และการทยอยครบกำหนดของเงินฝากในช่วงครึ่งหลังของปี เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสภาพคล่อง และต้นทุนทางการเงินของธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ