สหรัฐเผยปริมาณสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.พุ่ง 0.6%หลังยอดขายลด 0.5%

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 14, 2008 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ปริมาณสินค้าคงคลังในภาคธุรกิจของสหรัฐในเดือนธ.ค.ปี 2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 17 เดือน เนื่องจากยอดขายสินค้าร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2550
ปริมาณสินค้าคงคลังในภาคธุรกิจของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนธ.ค. เช่นเดียวกับสถิติในเดือนก.ค.2549 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ปริมาณสินค้าคงคลังจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4%
ปริมาณสินค้าคงคลังโดยรวมที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงปริมาณสินค้าคงคลังกลุ่มค้าส่งที่เพิ่มขึ้น 1.1% และภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งนับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปี 2549
อย่างไรก็ตาม ปริมาณสินค้าคงคลังกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่ได้ลดลง 0.3% ในเดือนพ.ย.
ส่วนกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ได้ระบายสินค้าในสต็อคซึ่งทำให้สต็อคสินค้าลดลง 1.6% นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ส่งผลให้ปริมาณสินค้าคงคลังในกลุ่มค้าปลีกซึ่งไม่นับรวมถยนต์ เพิ่มขึ้น 0.7%
ส่วนร้านขายเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์อสังหาริมทรัพย์นั้น ได้ปรับลดปริมาณสินค้าคงคลังลง 0.5%
สินค้าทั่วไปและห้างสรรพสินค้าต่างๆ อาทิ วอล-มาร์ท และทาร์เก็ต มีปริมาณสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนปริมาณสินค้าคงคลังในร้านขายเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น 0.5% และในร้านขายอุปกรณ์สร้างบ้านและสวนเพิ่มขึ้น 0.3%
ทั้งนี้ ยอดขายภาคธุรกิจโดยรวมในเดือนธ.ค.ลดลง 0.5% นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2550 ที่ลดลง 1.0% ขณะที่ยอดค้าปลีกโดยรวมลดลง 0.6% และยอดขายรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ลดลง 1.1% ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ