นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) คาดว่าหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว จะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการระดมทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ระยะที่ 2 หรือ TFFIF 2) เพื่อระดมทุนให้กับกรมทางหลวง โดยนำรายได้จากเส้นทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-บ้านฉาง) และมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) มาเป็นสินทรัพย์ของกองทุน
อย่างไรก็ตาม ยังมีกระบวนการต่าง ๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการอีกมาก ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายของกรมทางหลวงเพื่อเปิดทางให้สามารถระดมทุนผ่านกองทุน TFFIF 2 ได้ ซึ่งขณะนี้กฎหมายยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ยังไม่มีกำหนดเวลาว่าจะต้องเสร็จเมื่อไร และหลังจากนี้จะต้องนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่พิจารณาอีกครั้ง ก่อนส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณา คาดว่าจะใช้เวลาพอสมควร
"ตอนนี้รายละเอียดกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการแก้ไขกฎหมายของกรมทางหลวง ใน 2 มาตรา เพื่อให้สามารถส่งรายได้ของมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ สำหรับจ่ายเป็นผลตอบแทนของนักลงทุน แต่หากทางรัฐบาล หรือนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เร่งเรื่องนี้มา ก็เป็นไปได้ที่กระบวนการต่าง ๆ จะเสร็จเร็วขึ้น ก็มีโอกาสที่จะสามารถจะได้เห็นการระดมทุนของ TFFIF 2 ได้ภายในปีนี้ โดยทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาล" นายประภาศ กล่าว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการระดมทุนจาก TFFIF 2 จำนวนหลายหมื่นล้านบาท โดยตามแผนกรมทางหลวงต้องการเงินเพื่อไปก่อสร้างโครงการทางด่วนส่วนต่อขยายเชื่อมท่าเรือกรุงเทพ วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ระยะทาง 5 กม. เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าในพื้นที่โครงการ EEC, โครงการต่อขยายทางด่วนบูรพาวิถี วงเงิน 7,000 ล้านบาท และโครงการแก้ไขปัญหารถติดบริเวณถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งจะจัดทำโครงการยกระดับช่วงปทุมธานี-รังสิต-นครนายก ระยะทางรวม 20 กม. คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนประมาณ 11,000 ล้านบาท เป็นต้น