มอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของสหรัฐ เตรียมปรับลดพนักงานลง 1,000 อัตรา เนื่องจากบริษัทได้ปรับการดำเนินงานในธุรกิจปล่อยกู้จำนองด้านอสังหาริมทรัพย์ อันเป็นผลมาจากตลาดปล่อยกู้จำนองที่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง
มอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า บริษัทจะยกเลิกธุรกิจปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านในอังกฤษลง และจะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานในธุรกิจปล่อยกู้จำนองในสหรัฐร่วมกับผู้ปล่อยกู้นับร้อยราย เนื่องจากภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นกับตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐที่หนักสุดในรอบ 26 ปี ซึ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มผลกำไรของวาณิชธนกิจเหล่านี้ชะลอตัวลงด้วย
"จากปัญหาตลาดปล่อยกู้จำนองที่ทรุดลงอย่างต่อเนื่อง เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้ต่อไป" แอนโธนี่ มีโอล่า หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐกล่าว
นอกจากนี้ มอร์แกน แสตนลีย์ จะเดินหน้าให้บริการด้านการปล่อยกู้ในสหรัฐผ่านแซ็กซอน มอร์ทเกจ เซอร์วิสเซสของบริษัท รวมถึงจะให้บริการปล่อยกู้จำนองเพื่อที่อยู่อาศัยให้กับโบรกเกอร์ผ่านมอร์แกน สแตนลีย์ เครดิต คอร์ป
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่สามารถตัดสินใจในขณะนี้ว่า จะจ้างพนักงานในธุรกิจปล่อยกู้จำนองเพื่อที่อยู่อาศัยของบริษัทเป็นจำนวนเท่าไหร่
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารและโบรกเกอร์เหล่านี้ได้ลดจำนวนพนักงานไปแล้วมากกว่า 25,000 คน เนื่องจากวาณิชธนกิจเหล่านี้ต้องตัดบัญชีหนี้สูญและการขาดทุนด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เพื่อการจำนองถึง 1.50 แสนล้านดอลลาร์ มอร์แกน สแตนลีย์ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า กำลังจะปรับลดพนักงงานในฝ่ายปฏิบัติงาน เทคโนโลยี และด้านอื่นๆ ลง เนื่องจากตลาดปล่อยกู้จำนองชะลอตัว
เมื่อเดือนธ.ค. มอร์แกน สแตนลีย์ ได้ตัดบัญชีหนี้สูญ 9.4 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เพื่อการจำนอง และได้เร่งระดมทุนจากนักลงทุนจีนนับพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างฐานเงินทุนใหม่ สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--