กลุ่ม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ออกมาเรียกร้องให้บอร์ดคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ชะลอการอนุมัติผังเมือง EEC ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชนบทของประชาชนในพื้นที่นับหมื่นราย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่เกษตรกรรม (สีเขียว) ไปเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม (สีม่วง) ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมลดลง 4.1 แสนไร่ เพื่อนำไปเพิ่มเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 1.4 แสนไร่ และส่วนที่เหลือไปเพิ่มเป็นพื้นที่ชุมชน
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การประกาศใช้พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามหลักวิชาการผังเมือง ไม่ได้ศึกษาศักยภาพของพื้นที่ ทำลายวิถีชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนชาวบ้านต้องออกจากพื้นที่นับหมื่นราย เวลาจะประกาศใช้พื้นที่ก็ให้เอกชนเอาที่ตั้งมาแจ้งแล้วก็ขีดสีในแผนที่ตามใจชอบ บางแห่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ไม่เหมาะกับการตั้งโรงงานก็ตั้งทำนบดินกั้นน้ำไว้สูง 3-4 เมตร
นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นรวม 40 ครั้ง โดยในพื้นที่ที่ตนเองรับผิดชอบมี 3 ครั้ง แต่ไม่เคยนำข้อคัดค้านของคนในพื้นที่ไปพิจารณา อีกทั้งการจัดเวทีฯ ก็เป็นไปอย่างเร่งรัดจะแจ้งล่วงหน้าในเวลากระชั้นชิดไม่เกิน 3 วัน ขณะที่กฎหมายอีอีซีเป็นกฎหมายพิเศษที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบให้การคัดค้านที่ผ่านมาไม่เกิดผล
น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ส.ส.อนาคตใหม่ได้ยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ในการประชุมที่ผ่านมายังไม่ได้พิจารณาก็ปิดประชุมไปเสียก่อน นอกจากนี้ยังมีผู้ยื่นญัตติในเรื่องเดียวกันอีก คือ พรรคประชาชาติ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ
"เรื่องนี้มีหลายพรรคที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งหากเป็นไปอยากให้มาร่วมมือกันเป็นการแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่างของตัวเองไว้" น.ส.เบญจา กล่าว
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายที่จะเสนอขอแก้ไขกฎหมายอีอีซีให้เสร็จภายในสองสมัยประชุม โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม