นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังนายชินจิ นาคาโนะ (Mr. Shinji Nakano) ประธานหอการค้าญี่ปุ่น- กรุงเทพฯ (Japanese Chamber of Commerce, Bangkok: JCC) เข้าพบว่า ได้ให้ความมั่นใจต่อ JCC ว่า รัฐบาลจะยังคงเดินหน้านโยบายต่างๆ ทั้งเรื่องไทยแลนด์ 4.0, นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายหลักทั้งสิ้น พร้อมให้ความมั่นใจว่า แม้รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสมแต่การเดินหน้าทำงานไปในทิศทางเดียวกันด้วยการประชุมผ่าน ครม.เศรษฐกิจ
ด้านทางประธาน JCC ได้สะท้อนความรู้สึกของนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เข้าลงทุนในไทยในครึ่งปีแรกค่อนข้างจะต่ำ โดยสะท้อนมาจากปัญหาสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและความไม่ชัดเจนทางการเมืองในครึ่งปีแรก "เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนต่างชาติจะไม่มั่นใจในเศรษฐกิจไทย ทั้งจากปัญหาสงครามการค้า และการล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล สิ่งสำคัญ คือ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในประเทศ"นายสมคิดกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของนักธุรกิจญี่ปุ่น เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของไทยในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ ประธาน JCC ไม่ได้แสดงความกังวลต่อการขึ้นค่าแรงของไทย แต่ขอให้มีการหารืออย่างรอบคอบ ซึ่งได้ชี้แจงว่าการพิจารณาขึ้นค่าแรงต้องผ่านคณะกรรมการไตรภาคีที่จะพิจารณาด้วยความเหมาะสม
นายสมคิด กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีว่าไม่เหมาะสมว่า ประเทศจะเดินหน้าได้ทุกอย่างต้องมีทิศทางที่ชัดเจนและมีพลัง และการเดินหน้านโยบายต่างๆไม่สามารถทำได้หากนายกรัฐมนตรีไม่ให้การสนับสนุน ซึ่งการนายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนเต็มที่และทุกคนช่วยกันทำงาน เป็นเรื่องที่ดี
ส่วนกรณีฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก่อนการพิจารณางบประมาณประจำปี 2563 นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ช่วยคิดและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และยังเชื่อว่าประเทศยังเดินหน้าไปได้หากทุกคนช่วยกัน