คมนาคม สั่งบขส.ตรึงค่าโดยสารถึงหลังเทศกาลสงกรานต์ หลังพบยังมีกำไร

          รมว.คมนาคม ให้บริษัท  ขนส่ง จำกัด (บขส.) ตรึงราคาค่าโดยสารต่อไปอีก 3 เดือน หรือจนถึงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพสูงในปัจจุบัน หลังจากนั้นในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะพิจารณาราคาน้ำมันอีกครั้งว่ามีการปรับมากน้อยเท่าใด และจะได้กำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมต่อไป
          นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวยอมรับว่าการตรึงค่าโดยสารจะกระทบต่อกำไรของ บขส.ที่ลดลงบ้าง โดยหาก บขส. ปรับขึ้นค่าโดยสารจะมีกำไรประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี แต่หากตรึงค่าโดยสารจะมีกำไรลดลงเหลือประมาณ 140 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเห็นว่าเมื่อ บขส. ยังมีกำไร การตรึงค่าโดยสารเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนจึงเป็นการดี
          ส่วนค่าโดยสารของรถโดยสารร่วมบริการ บขส. นั้น ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร เพราะเห็นว่าเมื่อผลการดำเนินงานของ บขส. ยังมีกำไร ผู้ประกอบการรถร่วมเอกชนก็น่าจะมีกำไรใกล้เคียงกัน แต่หากผู้ประกอบการรถร่วมเอกชนมีข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงาน หรือข้อเสนอด้านอื่นๆ ก็พร้อมรับฟังและนำมาพิจารณาเพื่อกำหนดค่าโดยสารที่เหมาะสม
          ด้านนายวุฒิชาติ  กัลยาณมิตร ผู้จัดการใหญ่ บขส.กล่าวว่า เดิม บขส.มีกำหนดปรับราคาค่าโดยสารอีก 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ แต่หลังจากรับนโยบายจากกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ บขส. ได้ประชุมและสรุปว่า บขส.จะให้จะตรึงราคาค่าโดยสาร ไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 51 
          วันเดียวกัน บขส. ได้ร่วมกับบริษัท แอดวานซ์เทคโนโลยีซิสเต็ม จำกัด เพื่อร่วมมือกันติดตั้งระบบสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้า 60 วัน ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งในระยะแรกจะครอบคลุม 20 สถานีทั่วประเทศ ประกอบด้วย สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ 3 แห่ง ทั้งหมอชิตใหม่ สายใต้ และเอกมัย สถานีย่อยรังสิต จุดจอดรถนวนคร และสถานีประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วังน้อย เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่สอด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ภูเก็ต ตรัง หาดใหญ่ กระบี่ นครราชสีมา นครสวรรค์ หัวหิน และพัทยา 
          นอกจากนี้ ผู้ที่สำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์สามารถออกตั๋วได้ที่สาขาโมบายอีซี่ 50 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และในอนาคตระยะที่ 2 ผู้โดยสารของ บขส.จะสามารถจองซื้อตั๋วโดยสารผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยได้ทุกแห่ง โดยระยะต่อไป บขส.จะเชิญชวนรถร่วมบริการของเอกชนเข้ามาร่วมโครงการดังกล่าวด้วย 
          "บขส. ให้บริษัทเอกชนเข้ามารับสัมปทานในการลงทุนพัฒนาระบบจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ เป็นเงินประมาณ 80 ล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี และในอนาคตจะมีการขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ" นายวุฒิชาติ กล่าว